เมนู

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สหเสน แปลว่า ด้วยการกระทำ
อย่างผลุนผลัน. บทว่า น สํวิภชติ ความว่า ไม่แจกจ่ายแก่มิตรสหาย
ที่เคยเห็นเคยคบกัน. บทว่า น ปุญฺญานิ กโรติ ความว่า ไม่ทำบุญ
ซึ่งเป็นปัจจัยแก่ภพภายหน้า. บทว่า ธมฺมาธมฺเมน แปลว่า โดยชอบ
ธรรม และโดยไม่ชอบธรรม. บทว่า ฐาเนหิ ได้แก่โดยเหตุทั้งหลาย.
บทว่า สจฺฉิกโรติ ความว่า ผู้มีตบะ เมื่อทำตัวให้ร้อนรนกระวนกระวาย
จะทำให้แจ้งซึ่งอุตตริมนุสสธรรมได้อย่างไร. ธรรมราศี กองธรรม 3 อย่าง
ชื่อว่าอันบุคคลพึงเห็นเอง ด้วยอำนาจความเพียรที่ประกอบด้วยองค์ 4
และด้วยอำนาจธุดงค์. ในบทว่า นิชฺชรา นี้ ท่านเรียกมรรคบางอย่างว่า
ติสฺโส นิชฺชรา เพราะกิเลสทั้งสามหาชราทรุดโทรมมิได้.
จบ อรรถกถาราสิยสูตรที่ 12

13. ปาฏลิยสูตร



ว่าด้วยทรงรู้จักมายา



[649] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ อุตตรนิคม
แห่งชาวโกฬิยะในแคว้นโกฬิยะ ครั้งนั้นแล นายบ้านนามว่าปาฏลิยะ
เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า
แล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้า
ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ได้สดับมาว่า พระสมณโคดมทรง
รู้จักมายา ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ชนเหล่าใดกล่าวอย่างนี้ว่า พระสมณโคดม
ทรงรู้จักมายา ดังนี้ ชนเหล่านั้นเป็นอันกล่าวตามพระดำรัสที่พระผู้มีพระ-

ภาคเจ้าตรัสแล้ว จะไม่กล่าวตู่พระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยคำไม่จริง และ
พยากรณ์ธรรมสมควรแก่ธรรม และสหธรรมิกไร ๆ คล้อยตามวาทะ จะไม่
ถึงฐานะอันวิญญูชนจะติเตียนได้แลหรือ เพราะว่าข้าพระองค์ไม่ประสงค์
จะกล่าวตู่พระผู้มีพระภาคเจ้าเลย พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า ดูก่อน
นายคามณี ชนเหล่าใดกล่าวอย่างนี้ว่า พระสมณโคดมทรงทราบมายา
ดังนี้ ชนเหล่านั้นเป็นอันกล่าวตามคำที่เรากล่าวแล้ว ย่อมไม่กล่าวตู่เรา
ด้วยคำไม่จริง และพยากรณ์ธรรมสมควรแก่ธรรม และสหธรรมิกไร ๆ
คล้อยตามวาทะ ย่อมไม่ถึงฐานะอันวิญญูชนจะติเตียนได้.
คา. ข่าวเล่าลือข้อนั้นจริงเทียวพระองค์ แต่พวกข้าพระองค์ มิได้
เชื่อถือสมณพราหมณ์พวกนั้นว่า พระสมณโคดมทรงรู้จักมายา ข้าแต่
พระองค์ผู้เจริญ ข่าวว่า พระสมณโคดมมีมายา.
. ดูก่อนนายคามณี ผู้ใดแลพูดอย่างนี้ว่า เรารู้จักมายา ผู้นั้น
ย่อมจะพูดอย่างนี้ว่า เรามีมายา.
คา. ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ข้อนั้นย่อมเป็นดังนั้นเทียว ข้าแต่
พระสุคต ข้อนั้นย่อมเป็นดังนั้นเทียว.
. ดูก่อนนายคามณี ถ้าเช่นนั้น เราจักย้อนถามท่านในข้อนี้ ท่าน
พึงแก้ตามที่ท่านชอบใจ.
[650] ดูก่อนนายคามณี ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
ท่านย่อมรู้จักพวกอำมาตย์ผู้มีมวยผมยาวแห่งชาวโกฬิยะหรือ
คา. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ย่อมรู้จักพวกอำมาตย์มีมวย
ผมยาวแห่งชาวโกฬิยะ พระเจ้าข้า.

. ดูก่อนนายคามณี ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน พวก
อำมาตย์ผู้มีมวยผมยาวแห่งชาวโกฬิยะมีประโยชน์อย่างไร.
คา. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พวกอำมาตย์ผู้มีมวยผมยาวแห่งชาว
โกฬิยะมีประโยชน์ดังนี้ คือ เพื่อป้องกันพวกโจรแห่งชาวโกฬิยะ เพื่อ
ละความเป็นคนนำข่าวแห่งชาวโกฬิยะ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พวกอำมาตย์
ผู้มีมวยผมยาวแห่งชาวโกฬิยะมีประโยชน์อย่างนี้ พระเจ้าข้า.
. ดูก่อนนายคามณี ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ท่าน
ย่อมรู้จักอำมาตย์ผู้มีมวยผมยาวในนิคมแห่งชาวโกฬิยะว่า เป็นคนมีศีลหรือ
เป็นคนทุศีล.
คา. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ย่อมรู้จักพวกอำมาตย์ผู้มี
มวยผมยาวแห่งชาวโกฬิยะว่าเป็นคนทุศีล มีธรรมเลวทรามและพวก
อำมาตย์ผู้มีมวยผมยาวแห่งโกฬิยะ เป็นพวกหนึ่งในจำนวนบุคคลผู้ทุศีลมี
ธรรมเลวทรามในโลก.
. ดูก่อนนายคามณี ผู้ใดแลพึงพูดอย่างนี้ว่า นายบ้านนามว่า
ปาฏลิยะ รู้จักพวกอำมาตย์ผู้มีมวยผมยาวแห่งชาวโกฬิยะ ซึ่งเป็นคนทุศีล
มีธรรมเลวทราม แม้นายบ้านปาฏลิยะก็เป็นคนทุศีล มีธรรมเลวทราม
ดังนี้ ผู้นั้นเมื่อพูดถึงพึงพูดถูกหรือหนอแล.
คา. หาเป็นเช่นนั้นไม่ พระเจ้าข้า พวกอำมาตย์ผู้มีมวยผมยาว
แห่งชาวโกฬิยะเป็นพวกหนึ่ง ข้าพระองค์เป็นพวกหนึ่ง พวกอำมาตย์
ผู้มีมวยผมยาวแห่งชาวโกฬิยะเป็นคนมีธรรมเป็นอย่างหนึ่ง ข้าพระองค์
เป็นคนมีธรรมเป็นอย่างหนึ่ง.

. ดูก่อนนายคามณี ก็ที่จริง ท่านจักไม่ได้เป็นดังนี้ว่า นายบ้าน
นามว่าปาฏลิยะ รู้จักพวกอำมาตย์ผู้มีมวยผมยาวแห่งชาวโกฬิยะ ซึ่งเป็น
คนทุศีล มีธรรมเลวทราม แต่นายบ้านปาฏลิยะไม่ใช่เป็นคนทุศีล มีธรรม
เลวทราม ฉะนั้นตถาคตจักไม่ได้เป็นดังนี้ว่า ตถาคตรู้จักมายา แต่ว่าตถาคต
ไม่มีมายา.
[651] ดูก่อนนายคามณี เรารู้ชัดทั้งมายา ผลของมายา และ
ตลอดถึงความที่บุคคลผู้มีมายาปฏิบัติอย่างไรแล้ว เมื่อแตกกายตายไป ย่อม
เข้าถึงอบายทุคติ วินิบาต นรก เรารู้ชัดทั้งปาณาติบาต ผลของปาณาติบาต
และตลอดถึงความที่บุคคลผู้ฆ่าสัตว์ปฏิบัติอย่างไรแล้ว เมื่อแตกกายตายไป
ย่อมเข้าถึงอบายทุคติ วินิบาต นรก เรารู้ชัดทั้งอทินนาทาน ผลของ
อทินนาทาน และตลอดถึงความที่บุคคลผู้ลักทรัพย์ปฏิบัติอย่างไรแล้ว เมื่อ
แตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงอบายทุคติ วินิบาต นรก เรารู้ชัดทั้งกาเม
สุมิจฉาจาร ผลของกาเมสุมิจฉาจาร และตลอดถึงความที่บุคคลผู้ประพฤติ
ผิดในกามปฏิบัติอย่างไรแล้ว เมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ
วินิบาต นรก เรารู้ชัดทั้งมุสาวาท ผลของมุสาวาท และตลอดถึงความที่
บุคคลผู้พูดเท็จปฏิบัติอย่างไรแล้ว เมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย
ทุคติ วินิบาต นรก เรารู้ชัดทั้งปิสุณาวาจา ผลของปิสุณาวาจา และตลอด
ถึงความที่บุคคลกล่าวคำส่อเสียดปฏิบัติอย่าไรแล้ว เมื่อแตกกายตายไป
ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เรารู้ชัดทั้งผรุสวาจา ผลของผรุส-
วาจา และตลอดถึงความที่บุคคลผู้กล่าวคำหยาบปฏิบัติอย่างไรแล้ว เมื่อ
แตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เรารู้ชัดทั้ง

สัมผัปปลาปะ ผลของสัมผัปปลาปะ และตลอดถึงความที่บุคคลผู้พูดเพ้อเจ้อ
ปฏิบัติอย่างไรแล้ว เมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต
นรก เรารู้ชัดทั้งอภิชฌา ผลของอภิชฌา และตลอดถึงความที่บุคคลผู้มี
อภิชฌาปฏิบัติอย่างไรแล้ว เมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ
วินิบาต นรก เรารู้ชัดทั้งความพยาบาท ประทุษร้ายเขา ผลของความ
พยาบาทประทุษร้ายเขา และตลอดถึงความที่บุคคลผู้มีจิตพยาบาทปฏิบัติ
อย่างไรแล้ว เมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
เรารู้ชัดทั้งมิจฉาทิฏฐิ ผลของมิจฉาทิฏฐิ และตลอดถึงความที่บุคคลผู้เป็น
มิจฉาทิฏฐิปฏิบัติอย่างไรแล้ว เมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ
วินิบาต นรก.
[652] ดูก่อนนายคามณี มีสมณพราหมณ์พวกหนึ่งมีวาทะ
อย่างนี้ มีทิฏฐิอย่างนี้ว่า บุคคลผู้ฆ่าสัตว์ทุกคนต้องเสวยทุกข์โทมนัสใน
ปัจจุบัน บุคคลผู้ลักทรัพย์ทุกคนต้องเสวยทุกข์โทมนัสในปัจจุบัน บุคคล
ผู้ประพฤติผิดในกามคุณทุกคนต้องเสวยทุกข์โทมนัสในปัจจุบัน บุคคลผู้
พูดเท็จทุกคนต้องเสวยทุกข์โทมนัสในปัจจุบัน.
[653] ดูก่อนนายคามณี ก็และบุคคลบางคนในโลกนี้ ปรากฏว่า
เป็นผู้ประดับด้วยดอกไม้ ใส่ตุ้มหู อาบน้ำ ลูบไล้ดีแล้ว ตกแต่งผมและ
หนวดแล้ว ให้บำเรอตนด้วยความใคร่กับสตรี เหมือนกับพระราชา
ชนทั้งหลายพูดถึงบุคคลนั้นอย่างนี้ว่า ดูก่อนท่านผู้เจริญ ชายคนนี้ได้ทำ
อะไรจึงเป็น ผู้ประดับด้วยดอกไม้ ใส่ตุ้มหู อาบน้ำ ลูบไล้ดีแล้ว ตกแต่งผม
และหนวดแล้ว ให้บำเรอตนด้วยความใคร่กับสตรีเหมือนกับพระราชา

ชนทั้งหลายได้พูดถึงชายคนนั้นอย่างนี้ว่า ดูก่อนท่านผู้เจริญ ชายคนนี้
ข่มข้าศึกของพระราชาแล้วฆ่ามันเสีย พระราชาทรงโสมนัส ได้ทรงพระ-
ราชทานรางวัล ฉะนั้น ชายคนนี้จึงเป็นผู้ประดับด้วยดอกไม้ ใส่ตุ้มหู
อาบน้ำ ลูบไล้ดีแล้ว ตกแต่งผมและหนวดแล้ว ให้บำเรอตนด้วยความ
ใคร่กับสตรีเหมือนกับพระราชา ดูก่อนนายคามณี บุคคลบางคนในโลก
นี้ ปรากฏว่าถูกเขาเอาเชือกที่เหนียวแน่นมัดแขนไพล่หลังอย่างมั่นคงแล้ว
โกนศีรษะเสีย แล้วพาตระเวนไปตามถนนตามตรอก ด้วยบัณเฑาะว์
เสียงสนั่น แล้วออกทางประตูด้านทิศทักษิณ แล้วตัดศีรษะเสียทางด้าน
ทักษิณของพระนคร ชนทั้งหลายได้พูดถึงบุคคลนั้นอย่างนี้ว่า ดูก่อนท่าน
ผู้เจริญ ชายคนนี้ได้ทำอะไรไว้ จึงถูกเขาเอาเชือกที่เหนียวแม่นมัดแขน
ไพล่หลังอย่างมั่นคงแล้ว โกนศีรษะเสีย แล้วพาตระเวนไปตามถนนตาม
ตรอก ด้วยบัณเฑาะว์เสียงสนั่น แล้วออกทางประตูด้านทิศทักษิณ แล้ว
ตัดศีรษะเสียทางด้านทักษิณของพระนคร ชนทั้งหลายได้พูดถึงชายคนนี้ว่า
ดูก่อนท่านผู้เจริญ ชายคนนี้ฆ่าบุรุษหรือสตรีที่มีเวรกับพระราชา ฉะนั้น
พระราชาทั้งหลายจึงรับสั่งให้จับเขาแล้วกระทำกรรมกรณ์เห็นปานนี้ ดังนี้
ดูก่อนนายคามณี ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน เหตุการณ์เช่นนี้
ท่านได้เห็นหรือได้ฟังมาบ้างไหม.
คา. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เหตุการณ์เช่นนี้ ข้าพระองค์ได้เห็น
มาแล้วด้วย ได้ฟังมาแล้วด้วย จักได้ฟังต่อไปอีกด้วย.
[654] . ดูก่อนนายคามณี ในสมณพราหมณ์เหล่านั้น
สมณพราหมณ์พวกที่มีวาทะอย่างนี้ มีทิฏฐิอย่างนี้ว่า บุคคลผู้ฆ่าสัตว์ทุกคน
ต้องเสวยทุกข์โทมนัสในปัจจุบัน ดังนี้ เขาเหล่านั้นพูดจริงหรือเท็จ.

คา. พูดเท็จ พระเจ้าข้า.
. ก็พวกที่กล่าวเท็จเปล่า ๆ นั้น เป็นคนมีศีลหรือเป็นคนทุศีลเล่า.
คา. เป็นคนทุศีล พระเจ้าข้า.
. ก็พวกที่เป็นคนทุศีลมีธรรมเลวทรามนั้น เป็นคนปฏิบัติผิด
หรือเป็นคนปฏิบัติชอบเล่า.
คา. เป็นคนปฏิบัติผิด พระเจ้าข้า.
. ก็พวกที่ปฏิบัติผิดนั้น เป็นคนมีความเห็นผิดหรือเป็นคนมี
ความเห็นชอบเล่า.
คา. เป็นคนมีความเห็นผิด พระเจ้าข้า.
. ก็สมควรละหรือที่จะเลื่อมใสในพวกที่มีความเห็นผิดเหล่านั้น.
. ไม่สมควรเลย พระเจ้าข้า.
[655] . ดูก่อนนายคามณี บุคคลบางคนในโลกนี้ ปรากฏว่า
เป็นผู้ประดับด้วยดอกไม้ ใส่ตุ้มหู ฯลฯ แล้วให้บำเรอตนด้วยความใคร่
กับสตรีเหมือนกับพระราชา ชนทั้งหลายพูดถึงบุคคลนั้นอย่างนี้ว่า ดูก่อน
ท่านผู้เจริญ ชายคนนี้ได้ทำอะไร จึงเป็นผู้ประดับด้วยดอกไม้ ใส่ตุ้มหู ฯลฯ
ให้บำเรอตนด้วยความใคร่กับสตรีเหมือนกับพระราชา ชนทั้งหลายได้พา
กันพูดถึงชายคนนี้อย่างนี้ว่า ดูก่อนท่านผู้เจริญ ชายคนนี้ข่มขี่ ลักเอา
ทรัพย์ของข้าศึกของพระราชา พระราชาทรงโสมนัสได้พระราชทานรางวัล
แก่เขา ฉะนั้น ชายคนนี้จึงประดับด้วยดอกไม้ ใส่ตุ้มหู ฯลฯ ให้บำเรอตน
ด้วยความใคร่กับสตรีเหมือนกับพระราชา ดูก่อนนายคามณี บุคคลบางคน

ในโลกนี้ ปรากฏว่าถูกเขาเอาเชือกที่เหนียวมัดแขนไพล่หลังอย่างมั่นคงแล้ว
ฯลฯ ตัดศีรษะทางด้านทิศทักษิณของพระนคร ชนทั้งหลายได้พากันพูด
ถึงบุคคลนั้นอย่างนี้ว่า ดูก่อนท่านผู้เจริญ ชายคนนี้ได้ทำอะไร จึงถูกเขา
เอาเชือกที่เหนียวมัดแขนเอามือไพล่หลังอย่างมั่นคงแล้ว ฯลฯ ตัดศีรษะ
เสียทางด้านทักษิณของพระนคร ชนทั้งหลายได้พากันพูดถึงบุคคลนั้น
อย่างนี้ว่า ดูก่อนท่านผู้เจริญ ชายคนนี้ลักทรัพย์เป็นส่วนหนึ่งแห่งโจรกรรม
จากบ้านบ้าง จากป่าบ้าง ฉะนั้น พระราชาจึงรับสั่งให้จับเขาแล้วทำ
กรรมกรณ์เห็นปานนี้ ดูก่อนนายคามณี ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
เหตุการณ์เช่นนี้ ท่านได้เห็นหรือได้ฟังมาแล้วบ้างไหม.
คา. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เหตุการณ์เช่นนี้ ข้าพระองค์ได้เห็นมา
แล้วด้วย ได้ฟังมาแล้วด้วย จักได้ฟังต่อไปอีกด้วย.
[656] . ดูก่อนนายคามณี ในสมณพราหมณ์เหล่านั้น
สมณพราหมส์พวกที่มีวาทะอย่างนี้ มีทิฏฐิอย่างนี้ว่า บุคคลผู้ลักทรัพย์
ทุกคนต้องเสวยทุกขโทมนัสในปัจจุบัน ดังนี้ เขาเหล่านั้นพูดจริงหรือเท็จ.
คา. พูดเท็จ พระเจ้าข้า ฯลฯ
. ก็สมควรละหรือที่จะเลื่อมใสในพวกที่มีความเห็นผิดเหล่านั้น.
คา. ไม่สมควรเลย พระเจ้าข้า.
[657] ดูก่อนนายคามณี ก็บุคคลบางคนในโลกนี้ ปรากฏว่า
เป็นผู้ประดับด้วยดอกไม้ ใส่ตุ้มหู ฯ ล ฯ แล้วให้บำเรอตนด้วยความใคร่
กับสตรีเหมือนกับพระราชา ชนทั้งหลายได้พากันพูดถึงบุคคลนั้นอย่างนี้ว่า

ดูก่อนท่านผู้เจริญ ชายคนนี้ได้ทำอะไร จึงเป็นผู้ประดับด้วยดอกไม้ ใส่
ตุ้มหู ฯลฯ แล้วให้บำเรอตนด้วยความใคร่กับสตรีเหมือนกับพระราชา
ชนทั้งหลายได้พากันพูดถึงคนนั้นอย่างนี้ว่า ดูก่อนท่านผู้เจริญ ชายคนนี้
ประพฤติผิดในภรรยาของข้าศึกของพระราชา พระราชาทรงโสมนัสได้
พระราชทานรางวัลแก่เขา เพราะเหตุนั้น ชายคนนี้จึงเป็นผู้ประดับด้วย
ดอกไม้ ใส่ตุ้มหู ฯลฯ แล้วให้บำเรอตนด้วยความใคร่กับสตรีเหมือนกับ
พระราชา ดูก่อนนายคามณี บุคคลบางคนในโลกนี้ ปรากฏว่าถูกเขาเอา
เชือกที่เหนียวมัดแขนไพล่หลังอย่างมั่นคง ฯลฯ แล้วตัดศีรษะเสียทางด้าน
ทักษิณของพระนคร ชนทั้งหลายได้พากันพูดถึงบุคคลนั้นอย่างนี้ว่า ดูก่อน
ท่านผู้เจริญ ชายคนนี้ได้กระทำอะไรไว้จึงถูกเขาเอาเชือกที่เหนียวมัดแขน
ไพล่หลังอย่างมั่นคง ฯลฯ แล้วตัดศีรษะเสียทางด้านทิศทักษิณของพระ-
นคร ชนทั้งหลายพากันพูดถึงคนนั้นอย่างนี้ว่า ดูก่อนท่านผู้เจริญ ชาย
คนนี้ประพฤติผิดในกุลสตรีในกุลธิดา ฉะนั้นพระราชาทั้งหลายจึงรับสั่งให้
จับเขา แล้วกระทำกรรมกรณ์เห็นปานนี้ ดูก่อนนายคามณี ท่านจะสำคัญ
ความข้อนั้นเป็นไฉน เหตุการณ์เช่นนี้ ท่านได้เห็นหรือได้ฟังมาแล้วบ้างไหม.
คา. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เหตุการณ์เช่นนี้ ข้าพระองค์ได้เห็น
มาแล้วด้วย ได้ฟังมาแล้วด้วย จักได้ฟังต่อไปอีกด้วย.
[658] . ดูก่อนนายคามณี ในสมณพราหมณ์เหล่านั้น
สมณพราหมณ์ พวกที่มีวาทะอย่างนี้ มีทิฏฐิอย่างนี้ว่า บุคคลผู้ประพฤติผิด
ในกามคุณทุกคนต้องเสวยทุกขโทมนัสในปัจจุบัน ดังนี้ เขาเหล่านั้นพูดจริง
หรือเท็จ.

คา. พูดเท็จ พระเจ้าข้า ฯลฯ
. ก็สมควรละหรือที่จะเลื่อมใสในพวกที่มีความเห็นผิดเหล่านั้น.
คา. ไม่สมควรเลย พระเจ้าข้า.
[659] . ดูก่อนนายคามณี ก็บุคคลบางคนในโลกนี้ ปรากฏ
ว่าเป็นผู้ประดับด้วยดอกไม้ ใส่ตุ้มหู อาบน้ำ ลูบไล้ดีแล้ว ตกแต่งผม
และหนวด แล้วให้บำเรอตนด้วยความใคร่กับสตรีเหมือนกับพระราชา ชน
ทั้งหลายได้พากันพูดถึงบุคคลนั้นอย่างนี้ว่า ดูก่อนท่านผู้เจริญ ชายคนนี้
ได้ทำอะไร จึงเป็นผู้ประดับด้วยดอกไม้ ใส่ตุ้มหู อาบน้ำ ลูบไล้ดีแล้ว
ตกแต่งผมและหนวด แล้วให้บำเรอตนด้วยความใคร่กับสตรีเหมือนกับ
พระราชา ชนทั้งหลายได้พากันพูดถึงคนนั้นอย่างนี้ว่า ดูก่อนท่าน ผู้เจริญ
ชายคนนี้ทำพระราชาให้ทรงพระสรวลได้ด้วยการพูดเท็จ พระราชาทรง
โสมนัสได้พระราชทานรางวัลแก่เขา ฉะนั้นชายคนนั้นจึงเป็นผู้ประดับด้วย
ดอกไม้ ใส่ตุ้มหู อาบน้ำ ลูบไล้ดีแล้ว ตกแต่งผมและหนวด แล้วให้
บำเรอตนด้วยความใคร่กับสตรีเหมือนกับพระราชา ดูก่อนนายคามณี
บุคคลบางคนในโลกนี้ ปรากฏว่าถูกเขาเอาเชือกที่เหนียวมัดแขนไพล่หลัง
อย่างมั่นคงแล้วโกนหัวเสีย แล้วพาตระเวนไปตามถนนตามตรอกด้วย
บัณเฑาะว์เสียงสนั่นแล้วออกทางประตูด้านทิศทักษิณ แล้วตัดศีรษะเสีย
ทางด้านทักษิณของพระนคร ชนทั้งหลายได้พากันพูดถึงบุคคลนั้นอย่างนี้
ว่า ดูก่อนท่านผู้เจริญ ชายคนนี้ ได้ทำอะไร จึงถูกเอาเชือกที่เหนียวมัดแขน
ไพล่หลังอย่างมั่นคงแล้วโกนหัวเสีย แล้วพาตระเวนไปตามถนนตามตรอก
ด้วยบัณเฑาะว์เสียงสนั่น แล้วออกทางประตูด้านทิศทักษิณ แล้วตัดศีรษะ

เสียทางด้านทักษิณของพระนคร ชนทั้งหลายได้พากันพูดถึงคนนั้นอย่างนี้
ว่า ดูก่อนท่านผู้เจริญ ชายคนนี้ทำลายประโยชน์ของคฤหบดีบ้าง ของ
บุตรแห่งคฤหบดีบ้าง ด้วยการพูดเท็จ ฉะนั้น พระราชาจึงรับสั่งให้จับเขา
แล้วกระทำกรรมกรณ์เห็นปานนี้ ดูก่อนนายคามณี ท่านจะสำคัญความข้อ
นั้นเป็นไฉน เหตุการณ์เช่นนี้ ท่านได้เห็นหรือได้ฟังมาแล้วบ้างไหม.
คา. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เหตุการณ์เช่นนี้ ข้าพระองค์ได้เห็น
มาแล้วด้วย ได้ฟังมาแล้วด้วย จักได้ฟังต่อไปอีกด้วย.
[660] . ดูก่อนนายคามณี ในสมณพราหมณ์เหล่านั้น
สมณพราหมณ์พวกที่มีวาทะอย่างนี้ มีทิฏฐิอย่างนี้ว่า บุคคลผู้พูดเท็จทุกคน
ต้องเสวยทุกข์และโทมนัสในปัจจุบัน ดังนี้ เขาเหล่านั้นพูดจริงหรือเท็จ.
คา. พูดเท็จ พระเจ้าข้า.
. ก็พวกที่กล่าวเท็จเปล่า ๆนั้น เป็นคนมีศีลหรือเป็นคนทุศีลเล่า.
คา. เป็นคนทุศีล พระเจ้าข้า.
. ก็พวกที่เป็นคนทุศีลมีธรรมอันเลวทรามนั้น เป็นคนปฏิบัติ
ผิดหรือเป็นคนปฏิบัติชอบเล่า.
คา. เป็นคนปฏิบัติผิด พระเจ้าข้า.
. ก็พวกที่ปฏิบัติผิดนั้น เป็นคนมีความเห็นผิดหรือเป็นคนมี
ความเห็นชอบเล่า.
คา. เป็นคนมีความเห็นผิด พระเจ้าข้า.
. ก็สมควรละหรือที่จะเลื่อมใสในพวกที่มีความเห็นผิดเหล่านั้น.

คา. ไม่สมควรเลย พระเจ้าข้า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ น่าอัศจรรย์
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ไม่เคยมีมา ข้าพระองค์มีเรือนพักอยู่หลังหนึ่ง ใน
เรือนนั้นมีเตียงนอน มีที่นั่ง มีหม้อน้ำ มีประทีปน้ำมัน ข้าพระองค์
จะแจกจ่ายแก่สมณะหรือพราหมณ์ผู้เข้าไปอยู่ในเรือนพักนั้นตามสติกำลัง.

ว่าด้วยทาวะของศาสดา 4 ท่าน



[661] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เรื่องเคยมีมาแล้ว ศาสดา 4 ท่าน
ชึ่งมีความเห็น มีความพอใจ มีความชอบใจต่าง ๆ กัน พากันเข้าไปอยู่
ในเรือนพักนั้น ศาสดาท่านหนึ่งมีวาทะอย่างนี้ มีความเห็นอย่างนี้ว่า
ทานไม่มีผล การบูชาไม่มีผล การเซ่นสรวงไม่มีผล ผลวิบากที่ทำดีทำชั่ว
ไม่มี โลกนี้ไม่มี โลกหน้าไม่มี มารดาไม่มี บิดาไม่มี สัตว์ผู้ผุดขึ้นไม่มี
สมณพราหมณ์ผู้ดำเนินไปดี ปฏิบัติชอบ กระทำให้โลกนี้และโลกหน้าแจ้ง
ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง แล้วสอนผู้อื่นให้รู้ตาม ไม่มีในโลก.
[662] ศาสดาท่านหนึ่งมีวาทะอย่างนี้ มีความเห็นอย่างนี้ว่า
ทานมีผล การบูชามีผล การเช่นสรวงมีผล ผลวิบากที่ทำดีทำชั่วมีอยู่
โลกนี้มี โลกหน้ามี มารดามี บิดามี สัตว์ผู้ผุดเกิดมี สมณพราหมณ์
ผู้ดำเนินไปดี ปฏิบัติชอบ กระทำโลกนี้และโลกหน้าให้แจ้งด้วยปัญญาอัน
ยิ่งด้วยตนเอง แล้วสอนผู้อื่นให้รู้ตาม มีอยู่ในโลก.
[663] ศาสดาท่านหนึ่งมีวาทะอย่างนี้ มีความเห็นอย่างนี้ว่า
เมื่อบุคคลทำเอง ใช้ให้ผู้อื่นทำ ตัดเอง ใช้ให้ผู้อื่นตัด เบียดเบียนเอง
ใช้ให้ผู้อื่นเบียดเบียน ทำเขาให้เศร้าโศกเอง ใช้ผู้อื่นทำเขาให้เศร้าโศก