เมนู

เป็นคนละโมภ หลงพัวพัน ไม่เห็นโทษ ไม่มีปัญญาเครื่องสลัดออก
บริโภคทรัพย์นั้นอยู่ ดูก่อนนายคามณี อนึ่ง บุคคลผู้บริโภคกามบางคน
ในโลกนี้ แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ผลุนผลัน ครั้นแล้ว
เลี้ยงตัวให้เป็นสุขสบาย จำแนกทาน ทำบุญ และไม่ละโมภ ไม่หลง
ไม่พัวพัน มีปกติเห็นโทษ มีปัญญาเครื่องสลัดออก บริโภคทรัพย์นั้นอยู่

ว่าด้วยผู้บริโภคกามพึงถูกติเตียนและสรรเสริญ



[634] ดูก่อนนายคามณี ในบุคคลผู้บริโภคกาม 3 จำพวกนั้น
ผู้บริโภคกามที่แสวงหาโภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดยความผลุนผลัน
ครั้นแล้วไม่เลี้ยงตัวให้เป็นสุขสบาย ไม่จำแนกทาน ไม่ทำบุญ นี้ พึงถูก
ติเตียนโดย 3 สถาน. พึงถูกติเตียนโดย 3 สถานเป็นไฉน คือ สถานที่ 1
พึงถูกติเตียนดังนี้ว่า แสวงหาโภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดยความ
ผลุนผลัน สถานที่ 2 พึงถูกติเตียนดังนี้ว่า ไม่เลี้ยงตัวให้เป็นสุขสบาย
สถานที่ 3 พึงถูกติเตียนดังนี้ว่า ไม่จำแนกทาน ไม่ทำบุญ ดูก่อนนายคามณี
บุคคลผู้บริโภคกามเช่นนี้ พึงถูกติเตียนโดย 3 สถานเหล่านั้น
[635] ดูก่อนนายคามณี ในบุคคลผู้บริโภคกาม 3 จำพวกนั้น
ผู้บริโภคกามที่แสวงหาโภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดยความผลุนผลัน
ครั้นแล้วเลี้ยงตัวให้เป็นสุขสบาย แต่ไม่จำแนกทาน ไม่ทำบุญนี้ พึงถูก
ติเตียนโดย 2 สถาน ควรสรรเสริญโดยสถานเดียว พึงถูกติเตียนโดย
2 สถานเป็นไฉน คือ สถานที่ 1 พึงถูกติเตียนดังนี้ว่า แสวงหาโภคทรัพย์
โดยไม่ชอบธรรม โดยความผลุนผลัน สถานที่ 2 พึงถูกติเตียนดังนี้ว่า

ไม่จำแนกทาน ไม่ทำบุญ ควรสรรเสริญโดยสถานเดียวเป็นไฉน ควร
สรรเสริญโดยสถานเดียวว่า เลี้ยงตัวให้เป็นสุขสบาย ดูก่อนนายคามณี
บุคคลผู้บริโภคกามเช่นนี้ พึงถูกติเตียนโดย 2 สถาน ควรสรรเสริญโดย
สถานเดียวนี้.
[636] ดูก่อนนายคามณี ในบุคคลผู้บริโภคกาม 3 จำพวกนั้น
ผู้บริโภคกามที่แสวงหาโภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดยความผลุนผลัน
ครั้นแล้วเลี้ยงตัวให้เป็นสุขสบาย จำแนกทาน ทำบุญ นี้ พึงถูกติเตียนโดย
สถานอย่างเดียว ควรสรรเสริญโดย 2 สถาน พึงถูกติเตียนโดยสถานเดียว
เป็นไฉน คือ พึงถูกติเตียนโดยสถานเดียวว่า แสวงหาโภคทรัพย์โดยไม่
ชอบธรรม โดยความผลุนผลัน ควรสรรเสริญโดย 2 สถานเป็นไฉน
คือ สถานที่ ควรสรรเสริญดังนี้ว่า เลี้ยงตัวให้เป็นสุขสบาย สถานที่ 2
ควรสรรเสริญดังนี้ว่า จำแนกทาน ทำบุญ ดูก่อนนายคามณี บุคคล
ผู้บริโภคกามเช่นนี้ พึงถูกติเตียนโดยสถานเดียว ควรสรรเสริญโดย
2 สถานเหล่านี้.
[637] ดูก่อนนายคามณี ในบุคคลผู้บริโภคกาม 3 จำพวกนั้น
ผู้บริโภคกามที่แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรมและไม่ชอบธรรม โดย
ผลุนผลันบ้าง โดยไม่ผลุนผลันบ้าง ครั้นแล้วไม่เลี้ยงตัวให้เป็นสุขสบาย
ไม่จำแนกทาน ไม่ทำบุญ นี้ ควรสรรเสริญโดยสถานเดียว พึงถูกติเตียน
โดย 3 สถาน ควรสรรเสริญโดยสถานเดียวเป็นไฉน คือ ควรสรรเสริญ
โดยสถานเดียวดังนี้ว่า แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยความไม่
ผลุนผลัน พึงถูกติเตียนโดย 3 สถานเป็นไฉน คือ สถานที่ 1 พึงถูก

ติเตียนดังนี้ว่า แสวงหาโภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดยความผลุนผลัน
สถานที่ 2 พึงถูกติเตียนดังนี้ว่า ไม่เลี้ยงตัวให้เป็นสุขสบาย สถานที่ 3
พึงถูกติเตียนดังนี้ว่า ไม่จำแนกทาน ไม่ทำบุญ ดูก่อนนายคามณี บุคคล
บริโภคกามเช่นนี้ ควรสรรเสริญโดยสถานเดียว พึงถูกติเตียนโดย 3 สถาน
เหล่านี้.
[638] ดูก่อนนายคามณี ในบุคคลผู้บริโภคกาม 3 จำพวกนั้น
ผู้บริโภคกามที่แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรมและไม่ชอบธรรม โดย
ผลุนผลันบ้าง โดยไม่ผลุนผลันบ้าง ครั้นแล้วเลี้ยงตัวให้เป็นสุขสบาย
แต่ไม่จำแนกทาน ไม่ทำบุญ นี้ ควรสรรเสริญโดย 2 สถาน พึงถูกติเตียน
โดย 2 สถาน ควรสรรเสริญโดย 2 สถานเป็นไฉน คือ สถานที่ 1
ควรสรรเสริญดังนี้ว่า แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยความไม่
ผลุนผลัน สถานที่ 2 ควรสรรเสริญดังนี้ว่า เลี้ยงตัวให้เป็นสุขสบาย
พึงถูกติเตียนโดย 2 สถานเป็นไฉน คือ สถานที่ 1 พึงถูกติเตียนดังนี้ว่า
แสวงหาโภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดยความผลุนผลัน สถานที่ 2 พึงถูก
ติเตียนดังนี้ว่า ไม่จำแนกทาน ไม่ทำบุญ ดูก่อนนายคามณี บุคคลผู้บริโภค
กามเช่นนี้ ควรสรรเสริญโดย 2 สถาน พึงถูกติเตียน 2 สถานเหล่านี้
[639] ดูก่อนนายคามณี ในบุคคลผู้บริโภคกาม 3 จำพวกนั้น
ผู้บริโภคกามที่แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรมและไม่ชอบธรรม โดย
ผลุนผลันบ้าง โดยไม่ผลุนผลันบ้าง ครั้นแล้วเลี้ยงตัวให้เป็นสุขสบาย
จำแนกทาน ทำบุญ นี้ ควรสรรเสริญโดย 3 สถาน พึงถูกติเตียนโดย
สถานเดียว ควรสรรเสริญโดย 3 สถานเป็นไฉน คือ สถานที่ 1 ควร

สรรเสริญดังนี้ว่า แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยความไม่ผลุนผลัน
สถานที่ 2 ควรสรรเสริญดังนี้ว่า เลี้ยงตัวให้เป็นสุขสบาย สถานที่ 3
ควรสรรเสริญดังนี้ว่า จำแนกทาน ทำบุญ พึงถูกติเตียนโดยสถานเดียว
เป็นไฉน คือ พึงถูกติเตียนโดยสถานเดียวดังนี้ว่า แสวงหาโภคทรัพย์
โดยไม่ชอบธรรม โดยความผลุนผลัน ดูก่อนนายคามณี บุคคลผู้บริโภค
กามเช่นนี้ ควรสรรเสริญโดย 3 สถาน พึงถูกติเตียนโดยสถานเดียวนี้.
[640] ดูก่อนนายคามณี ในบุคคลผู้บริโภคกาม 3 จำพวกนั้น
ผู้บริโภคกามที่แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยความไม่ผลุนผลัน
ครั้นแล้วไม่เลี้ยงตัวให้สุขสบาย ไม่จำแนกทานไม่ทำบุญ นี้ ควรสรรเสริญ
โดยสถานเดียว พึงถูกติเตียนโดย 2 สถาน ควรสรรเสริญโดยสถานเดียว
เป็นไฉน คือควรสรรเสริญโดยสถานเดียวดังนี้ว่า แสวงหาโภคทรัพย์
โดยชอบธรรม โดยความไม่ผลุนผลัน พึงถูกติเตียนโดย 2 สถานเป็นไฉน
คือ สถานที่ 1 พึงถูกติเตียนดังนี้ว่า ไม่เลี้ยงตัวให้เป็นสุขสบาย สถานที่ 2
พึงถูกติเตียนดังนี้ว่า ไม่จำแนกทาน ไม่ทำบุญ ดูก่อนนายคามณี บุคคล
ผู้บริโภคกามเช่นนี้ ควรสรรเสริญโดยสถานเดียว พึงถูกติเตียนโดย
2 สถานเหล่านี้.
[641] ดูก่อนนายคามณี ในบุคคลผู้บริโภคกาม 3 จำพวกนั้น
ผู้บริโภคกามที่แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยความไม่ผลุนผลัน
ครั้นแล้วเลี้ยงตัวให้เป็นสุขสบาย แต่ไม่จำแนกทาน ไม่ทำบุญ นี้ ควร
สรรเสริญโดย 2 สถาน พึงถูกติเตียนโดยสถานเดียว ควรสรรเสริญโดย

2 สถานเป็นไฉน คือ สถานที่ 1 ควรสรรเสริญ. ดังนี้ ว่า แสวงหาโภคทรัพย์
โดยชอบธรรม โดยความไม่ผลุนผลัน สถานที่ 2 ควรสรรเสริญดังนี้ว่า
เลี้ยงตัวให้เป็นสุขสบาย พึงถูกติเตียนโดยสถานเดียวเป็นไฉน คือ พึงถูก
ติเตียนโดยสถานเดียวดังนี้ว่า ไม่จำแนกทาน ไม่ทำบุญ ดูก่อนนายคามณี
บุคคลผู้บริโภคกามเช่นนี้ ควรสรรเสริญโดย 2 สถาน พึงถูกติเตียนโดย
สถานเดียวนี้.
[642] ดูก่อนนายคามณี ในบุคคลผู้บริโภคกาม 3 จำพวกนั้น
ผู้บริโภคกามที่แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยความไม่ผลุนผลัน
ครั้นแล้วเลี้ยงตัวให้เป็นสุขสบาย จำแนกทาน ทำบุญ แต่ยังเป็นคนละโมภ
หลง พัวพัน ไม่เห็นโทษ ไม่มีปัญญาเครื่องสลัดออก บริโภคโภคทรัพย์นี้
ควรสรรเสริญโดย 3 สถาน พึงถูกติเตียนโดยสถานเดียว ควรสรรเสริญ
โดย 3 สถานเป็นไฉน คือ สถานที่ 1 ควรสรรเสริญดังนี้ว่า แสวงหา
โภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยความไม่ผลุนผลัน สถานที่ 2 ควรสรรเสริญ
ดังนี้ว่า เลี้ยงตัวให้เป็นสุขสบาย สถานที่ 3 ควรสรรเสริญดังนี้ว่า จำแนก
ทาน ทำบุญ พึงถูกติเตียนโดยสถานเดียวเป็นไฉน คือ พึงถูกติเตียน
โดยสถานเดียวดังนี้ว่า เป็นคนละโมภ หลง พัวพัน ไม่เห็นโทษ ไม่มี
ปัญญาเครื่องสลัดออก บริโภคโภคทรัพย์ ดูก่อนนายคามณี บุคคลผู้บริโภค
กามเช่นนี้ ควรสรรเสริญโดย 3 สถาน พึงถูกติเตียนโดยสถานเดียวนี้.
[643] ดูก่อนนายคามณี ในบุคคลผู้บริโภคกาม 3 จำพวกนั้น
ผู้บริโภคกามที่แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยความไม่ผลุนผลัน
ครั้นแล้วเลี้ยงตัวให้เป็นสุขสบาย จำแนกทาน ทำบุญ และไม่ละโมภ

ไม่หลง ไม่พัวพัน มีปกติเห็นโทษ มีปัญญาเป็นเครื่องสลัดออก บริโภค
โภคทรัพย์นี้ ควรสรรเสริญโดย 4 สถาน ควรสรรเสริญโดย 4 สถาน
เป็นไฉน คือ สถานที่ 1 ควรสรรเสริญดังนี้ว่า แสวงหาโภคทรัพย์
โดยชอบธรรม โดยความไม่ผลุนผลัน สถานที่ 2 ควรสรรเสริญดังนี้ว่า
เลี้ยงตัวให้เป็นสุขสบาย สถานที่ 3 ควรสรรเสริญดังนี้ว่า จำแนกทาน
ทำบุญ สถานที่ 4 ควรสรรเสริญดังนี้ว่า เป็นคนไม่ละโมภ ไม่หลง
ไม่พัวพัน มีปรกติเห็นโทษ มีปัญญาเป็นเครื่องสลัดออก บริโภคโภคทรัพย์
ดูก่อนนายคามณี บุคคลผู้บริโภคกามเช่นนี้ ควรสรรเสริญโดย 4 สถาน
เหล่านี้.

ว่าด้วยผู้มีตบะทรงชีพอยู่อย่างเศร้าหมอง 3 จำพวก



[644] ดูก่อนนายคามณี บุคคลผู้มีตบะ ทรงชีพอยู่อย่าง
เศร้าหมอง 3 จำพวกนี้ มีปรากฏอยู่ในโลก 3 จำพวกเป็นไฉน คือ บุคคล
ผู้มีตบะทรงชีพอยู่อย่างเศร้าหมองบางคนในโลกนี้ เป็นผู้มีศรัทธาออกบวช
เป็นบรรพชิตด้วยคิดว่า ไฉนหนอ เราพึงบรรลุกุศลธรรม พึงทำให้แจ้ง
ซึ่งอุตตริมนุสสธรรมที่เป็นญาณทัศนะ วิเศษชั้นเยี่ยม อย่างบริบูรณ์ ดังนี้
เขาย่อมทำตัวให้ร้อนรนกระวนกระวาย แต่ก็ไม่บรรลุกุศลธรรม ทำให้
แจ้งซึ่งอุตตริมนุสสธรรมที่เป็นญาณทัศนะวิเศษชั้นเยี่ยมอย่างบริบูรณ์ไม่ได้
1 ดูก่อนนายคามณีก็บุคคลผู้มีตบะทรงชีพอยู่อย่างเศร้าหมองบางคนในโลก
นี้ เป็นผู้มีศรัทธา ออกบวชเป็นบรรพชิตด้วยคิดว่า ไฉนหนอ เราพึง
บรรลุกุศลธรรม พึงทำให้แจ้งซึ่งอุตตริมนุสสธรรม ที่เป็นญาณทัศนะวิเศษ