เมนู

5. อัสสาโรหสูตร



ว่าด้วยปัญหาของนายทหารม้า



[596] ครั้งนั้นแล นายทหารม้าเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า
ถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้วนั่งอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูล
ถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ได้สดับคำ
ของทหารม้า ทั้งอาจารย์และปาจารย์ก่อน ๆ พูดกันว่า ทหารม้าคนใด
อุตสาหะพยายามในสงคราม คนอื่นฆ่าผู้นั้นซึ่งกำลังอุตสาหะพยายามให้
ถึงความตาย ทหารม้าผู้นั้นเมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของเทวดา
เหล่าสรชิต ในข้อนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่ากระไร พระผู้มีพระภาคเจ้า
ตรัสว่า อย่าเลยของดข้อนี้เสียเถิด อย่าถามเราถึงข้อนี้เลย แม้ครั้งที่ 2
ฯลฯ แม้ครั้งที่ 3 นายทหารม้าได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่
พระองค์ผ้เจริญ ข้าพระองค์ได้สดับคำของทหารม้าทั้งอาจารย์และปาจารย์
คนก่อน ๆ พูดกันว่า ทหารม้าคนใดอุตสาหะพยายามในสงคราม คนอื่น
ฆ่าผู้นั้นเมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของเทวดาเหล่าสรชิต ใน
ข้อนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่ากระไร พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า แน่ะ
นาย เราห้ามไม่ได้แน่แล้วว่า อย่าเลยนาย ของดข้อนี้เสียเถิด อย่าถาม
เราถึงข้อนี้เลย แต่เราจักพยากรณ์ให้ท่าน แน่ะนาย ทหารม้าคนใดอุตสาหะ
พยายามในสงคราม ผู้นั้นยึดหน่วงจิตกระทำไว้ไม่ดี ตั้งจิตไว้ไม่ดีก่อนว่า
สัตว์เหล่านี้จงถูกฆ่า จงถูกแทง จงขาดสูญ จงพินาศ หรือว่า จงอย่า
มีคนอื่นฆ่าผู้นั้นซึ่งกำลังอุตสาหะพยายามให้ถึงความตาย ทหารม้าผู้นั้น
เมื่อตายไป ย่อมบังเกิดในนรกชื่อสรชิต อนึ่ง ถ้าเขามีความเห็นว่า ทหารม้า

คนใดอุตสาหะพยายามในสงคราม คนอื่นฆ่าผู้นั้นซึ่งกำลังอุตสาหะพยายาม
ให้ถึงความตาย ทหารม้าผู้นั้นเมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของ
เทวดาเหล่าสรชิต ดังนี้ ไซร้ ความเห็นของเขานั้นเป็นความเห็นผิด แนะ.
นาย ก็เรากล่าวคติ 2 อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่ง คือ นรกหรือกำเนิด
สัตว์เดียรัจฉาน ของบุคคลผู้มีความเห็นผิด.
[597] เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้แล้ว นายทหารม้า
ร้องไห้ น้ำตาไหล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า แน่ะนาย เราได้ห้ามท่าน
อย่างนี้แล้วมิใช่หรือว่า อย่าเลยนาย ของดข้อนี้เสียเถิด อย่าถามเราถึง
ข้อนี้เลย เขาทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์มิได้ร้องไห้ถึงข้อที่
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสกะข้าพระองค์หรือก็ แต่ว่าข้าพระองค์ถูกทหารม้า
ทั้งอาจารย์และปาจารย์ก่อน ๆ ลวงให้หลงสิ้นกาลนานว่า ทหารม้าคนใด
อุตสาหะพยายามในสงคราม คนอื่นฆ่าผู้นั้นซึ่งกำลังอุตสาหะพยายามให้ถึง
ความตาย ทหารม้าผู้นั้นเมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของเทวดา
เหล่าสรชิต ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระธรรมเทศนาของพระองค์แจ่มแจ้ง
นัก ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระธรรมเทศนาของพระองค์แจ่มแจ้งนัก
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงประกาศธรรมโดยอเนกปริยาย ดุจหงายของที่คว่ำ
เปิดของที่ปิด บอกทางให้แก่คนหลงทาง หรือส่องไฟในที่มิดด้วยหวังว่า
คนมีจักษุจักได้เห็นรูป ฉะนั้น ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์นี้ขอถาม
พระผู้มีพระภาคเจ้ากับทั้งพระธรรมและภิกษุสงฆ์ว่าเป็นสรณะ ขอพระผู้มี-
พระภาคเจ้าโปรดทรงจำข้าพระองค์ว่าเป็นอุบาสกผู้ถึงพระรัตนตรัยเป็น
สรณะ จนตลอดชีวิต ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป.
จบ อัสสาโรหสูตรที่ 5

อรรถกถาหัตถาโรหสูตรที่ 4 และ อัสสาโรหสูตรที่ 5



แม้ในสูตรที่ 4 และสูตรที่ 5 ก็นัยนี้เหมือนกัน.
จบ อรรถกถาสูตรที่ 4 - 5

6. ภูมกสูตร



ว่าด้วยผู้ทำอกุศลกรรมบถ 10 ย่อมเข้าถึงอบาย



[598] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ ปาวาริก-
อัมพวัน ใกล้เมืองนาฬันทา ครั้งนั้นแล นายบ้านนามว่าอสิพันธกบุตร
เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า
แล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พวกพราหมณ์ชาวปัจฉาภูมิ มีคณโฑน้ำติดตัว
ประดับพวงมาลัยสาหร่ายอาบน้ำทุกเช้าเย็น บำเรอไฟ พราหมณ์เหล่านั้น
ชื่อว่ายังสัตว์ที่ตายทำกาละแล้วให้ฟื้นขึ้นมา ให้รู้สึกตัว จูงให้ขึ้นสวรรค์
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัม-
พุทธเจ้า สามารถการทำให้สัตว์โลกทั้งหมด เมื่อตายไป พึงเข้าถึงสุคติ
โลกสวรรค์ได้หรือ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนนายคามณี ถ้าอย่าง
นั้น เราจักย้อนถามท่านในข้อนี้ ปัญหาควรแก่ท่านด้วยประการใด ท่าน
พึงพยากรณ์ปัญหาข้อนั้นด้วยประการนั้น ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็น
ไฉน บุรุษในโลกนี้ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จ
พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ มากไปด้วยอภิชฌา มีจิตพยาบาท