เมนู

อรรถกถาอนิมิตตปัญหาสูตรที่ 9



บทว่า อนิมิตฺตํ เจโตสมาธิ นั้น พระเถระกล่าวหมายถึงวิปัสสนา-
สมาธิทูลนิมิตว่าเที่ยงเป็นต้นได้แล้วเป็นไป. บทว่า อนิมิตฺตานุสาริ-
วิญฺญาณํ โหติ
ความว่า เมื่อเราอยู่ด้วยวิปัสสนาสมาธิวิหารธรรมนี้อย่างนี้
วิปัสสนาญาณก็แก่กล้า ละเอียดนำไปอยู่เหมือนเมื่อบุรุษเอาขวานที่คม
ตัดต้นไม้อยู่ มองดูอยู่ซึ่งคมขวานในทุกขณะด้วยคิดว่า ขวานของเรา
จริงหนอดังนี้ กิจในการตัด ก็ย่อมไม่สำเร็จฉันใด แม้พระเถระ ปรารภ
วิปัสสนาด้วยคิดว่าญาณของเราแก่กล้าจริงหนอดังนี้ ความใคร่ ก็ย่อมเกิด
ขึ้น เมื่อเป็นเช่นนั้น พระเถระนั้น ก็ไม่สามารถให้วิปัสสนากิจสำเร็จได้
ฉันนั้น. พระเถระหมายถึงข้อนั้น จึงกล่าวว่า อนิมิตฺตานุสาริวิญฺญาณํ
โหติ
. บทว่า สพฺพนิมิต ตานํ อมนสิการา อนิมิตฺตํ เจโตสมาธิ
อุปสมฺปชฺช วิหาสึ
ความว่า เราเข้าเจโตสมาธิที่สัมปยุตด้วยวุฏฐานคามิ-
นีวิปัสสนา และสมาธิในมรรคและผลเบื้องสูง ซึ่งมีนิพพานเป็นอารมณ์
อันไม่มีนิมิต เพราะไม่กระทำไว้ในใจซึ่งนิมิตว่าเที่ยงเป็นสุขเป็นตน
ทั้งปวงอยู่แล้ว
จบ อรรถกถาอนิมิตตปัญหาสูตรที่ 9

10. สักกสูตร



ว่าด้วยพระมหาโมคคัลลานเถระแสดงธรรมแก่ท้าวสักกะ



[525] ครั้งนั้น ท้าวสักกะจอมเทพกับเทวดา 600 องค์ ฯลฯ
700 องค์ ฯลฯ 800 องค์ ฯลฯ

[526] ครั้งนั้นแล ท้าวสักกะจอมเทพกับเทวดา 84,000 องค์
เข้าไปหาท่านพระมหาโมคคัลลานะถึงที่อยู่ ไหว้ท่านพระมหาโมคคัลลานะ
แล้ว ได้ไปประทับยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วท่านพระมหา-
โมคคัลลานะได้พูดกะท้าวสักกะจอมเทพว่า ดูก่อนจอมเทพ การถึงพระ-
พุทธเจ้าเป็นสรณะดีนัก เพราะเหตุแห่งการถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ
สัตว์บางพวกในโลกนี้ เมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
การถึงพระธรรมเป็นสรณะดีนัก. . .การถึงพระสงฆ์เป็นสรณะดีนัก เพราะ
เหตุแห่งการถึงพระสงฆ์เป็นสรณะ สัตว์บางพวกในโลกนี้ เมื่อแตกกาย
ตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ท้าวสักกะจอมเทพตรัสว่า ข้าแต่ท่าน
พระโมคคัลลานะผู้นิรทุกข์ การถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะดีนัก เพราะ
เหตุแห่งการถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ สัตว์บางพวกในโลกนี้ เมื่อแตกกาย
ตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ การถึงพระธรรมเป็นสรณะดีนัก . . .
การถึงพระสงฆ์เป็นสรณะดีนัก เพราะเหตุแห่งการถึงพระสงฆ์เป็นสรณะ
สัตว์บางพวกในโลกนี้ เมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
[527] ครั้งนั้นแล ท้าวสักกะจอมเทพกับเทวดา 500 องค์
เข้าไปหาท่านพระมหาโมคคัลลานะถึงที่อยู่ ไหว้ท่านพระมหาโมคคัลลานะ
แล้ว ได้ประทับยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ท่านพระมหา-
โมคคัลลานะได้พูดกะท้าวสักกะจอมเทพว่า ดูก่อนจอมเทพ การประกอบ
ด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระพุทธเจ้าว่า แม้เพราะเหตุนี้ ๆ พระ
ผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น เป็นพระอรหันต์ตรัสรู้เองโดยชอบ ถึงพร้อม
ด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดีแล้ว ทรงรู้แจ้งโลก เป็นสารถีฝึกบุรุษที่

ควรฝึก ไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็น
ผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้จำแนกธรรมดังนี้ ดีนัก เพราะเหตุแห่งการประกอบ
ด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระพุทธเจ้า สัตว์บางพวกในโลกนี้
เมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ดูก่อนจอมเทพ การ
ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระธรรมว่า พระธรรมอัน
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสดีแล้ว อันผู้ได้บรรลุพึงเห็นเอง ไม่ประกอบด้วย
กาล ควรเรียกให้มาดู ควรน้อมเข้ามา อันวิญญูชนพึงรู้เฉพาะตน ดังนี้
ดีนัก เพราะเหตุแห่งการประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวใน
พระธรรม สัตว์บางพวกในโลกนี้ เมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติ
โลกสวรรค์ ดูก่อนจอมเทพ การประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหว
ในพระสงฆ์ว่า พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ปฏิบัติแล้ว
ปฏิบัติตรง ปฏิบัติเป็นธรรม ปฏิบัติชอบ คือ คู่แห่งบุรุษ 4 บุรุษบุคคล 8
นี้ พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ควรของคำนับ ควรของ
ต้อนรับ ควรของทำบุญ ควรทำอัญชลี เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญ
อื่นยิ่งกว่า ดังนี้ ดีนัก เพราะเหตุแห่งการประกอบด้วยความเลื่อมใสอัน
ไม่หวั่นไหวในพระสงฆ์ สัตว์บางพวกในโลกนี้ เมื่อแตกกายตายไป ย่อม
เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ดูก่อนจอมเทพ การประกอบด้วยศีลที่พระอริยเจ้า
ใคร่แล้ว อันไม่ขาด ไม่ทะลุ ไม่ด่าง ๆ ไม่พร้อม เป็นไทย วิญญูชน
สรรเสริญ อันตัณหาและทิฏฐิลูบคลำไม่ได้เป็นไปเพื่อสมาธิ ดีนัก เพราะ
เหตุแห่งการประกอบด้วยศีลที่พระอริยเจ้าใคร่แล้ว สัตว์บางพวกในโลกนี้
เมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ท้าวสักกะจอมเทพตรัสว่า

ข้าแต่ท่านพระโมคคัลลานะผู้นิรทุกข์ การประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่
หวั่นไหวในพระพุทธเจ้าว่า แม้เพราะเหตุนี้ ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์
นั้น... ดีนัก เพราะเหตุแห่งการประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่น
ไหวในพระพุทธเจ้า สัตว์บางพวกในโลกนี้ เมื่อแตกกายตายไป ย่อม
เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ข้าแต่ท่านพระโมคคัลลานะผู้นิรทุกข์ การประกอบ
ด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระธรรมว่า พระธรรมอันพระผู้มี-
พระภาคเจ้าตรัสดีแล้ว . . . ดีนัก เพราะเหตุการณ์ประกอบด้วยความเลื่อมใส
อันไม่หวั่นไหวในพระธรรม สัตว์บางพวกในโลกนี้ เมื่อแตกกายตายไป
ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ข้าแต่ท่านพระโมคคัลลานะผู้นิรทุกข์ การ
ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระสงฆ์ว่า พระสงฆ์สาวก
ของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว . . . ดีนัก เพราะเหตุแห่งการ
ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระสงฆ์ สัตว์บางพวกใน
โลกนี้ เมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ข้าแต่ท่านพระ-
โมคคัลลานะผู้นิรทุกข์ การประกอบด้วยศีลที่พระอริยเจ้าใคร่แล้ว ไม่ขาด...
เป็นไปเพื่อสมาธิ ดีนัก เพราะเหตุแห่งการประกอบด้วยศีลที่พระอริยเจ้า
ใคร่แล้ว สัตว์บางพวกในโลกนี้ เมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติ
โลกสวรรค์.
[528] ครั้งนั้นแล ท้าวสักกะจอมเทพกับเทวดา 600 องค์
ฯลฯ 700 องค์ ฯลฯ 800 องค์ ฯลฯ.
[529] ครั้งนั้น ท้าวสักกะจอมเทพกับเทวดา 84,000 องค์
เข้าไปหาท่านพระมหาโมคคัลลานะถึงที่อยู่ ไหว้ท่านพระมหาโมคคัลลานะ

แล้ว ได้ประทับยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ท่านพระมหา-
โมคคัลลานะได้พูดกะท้าวสักกะจอมเทพว่า ดูก่อนจอมเทพ การประกอบ
ด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระพุทธเจ้าว่า แม้เพราะเหตุนี้ ๆ
พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น.... ดีนักเพราะเหตุแห่งการประกอบด้วย
ความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระพุทธเจ้า สัตว์บางพวกในโลก เมื่อ
แตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ดูก่อนจอมเทพ การประกอบ
ด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระธรรมว่า พระธรรมอันพระผู้มี-
พระภาคเจ้าตรัสดีแล้ว . . . ดีนัก เพราะเหตุแห่งการประกอบด้วยความ
เลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระธรรม สัตว์บางพวกในโลกนี้ เมื่อแตกกาย
ตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ดูก่อนจอมเทพ การประกอบด้วยความ
เลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระสงฆ์ว่า พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระ-
ภาคเจ้า เป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว . . . ดีนัก เพราะเหตุแห่งการประกอบด้วย
ความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระสงฆ์ สัตว์บางพวกในโลกนี้ เมื่อแตก
กายตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ดูก่อนจอมเทพ การประกอบด้วย
ศีลที่พระอริยเจ้าใคร่แล้ว อันไม่ขาด . . . ดีนักเพราะเหตุแห่งการประกอบ
ด้วยศีลที่พระอริยเจ้าใคร่แล้ว สัตว์บางพวกในโลกนี้ เมื่อแตกกายตายไป
ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ท้าวสักกะจอมเทพตรัสว่า ข้าแต่ท่านพระ-
โมคคัลลานะผู้นิรทุกข์ การประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวใน
พระพุทธเจ้าว่า แม้เพราะเหตุนี้ ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น . . .
ดีนัก เพราะเหตุแห่งการประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระ-
พุทธเจ้า สัตว์บางพวกในโลกนี้ เมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติ-

โลกสวรรค์ การประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระธรรมว่า
พระธรรมอันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสดีแล้ว. . . ดีนัก เพราะเหตุแห่งการ
ประกอบด้วย ความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระธรรม สัตว์บางพวกใน
โลกนี้ เมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ การประกอบด้วย
ความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระสงฆ์ว่า พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระ-
ภาคเจ้า เป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว. . . ดีนัก เพราะเหตุแห่งการประกอบด้วย
ความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระสงฆ์ สัตว์บางพวกในโลกนี้ เมื่อแตก
กายตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ การประกอบด้วยศีลที่พระอริยเจ้า
ใคร่แล้วอันไม่ขาด. . .ดีนัก เพราะเหตุแห่งการประกอบด้วยศีลที่พระ-
อริยเจ้าใคร่แล้ว สัตว์บางพวกในโลกนี้ เมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึง
สุคติโลกสวรรค์.
[530] ครั้งนั้น ท้าวสักกะจอมเทพกับเทวดา 500 องค์ เข้า
ไปหาท่านพระมหาโมคคัลลานะถึงที่อยู่ ไหว้ท่านพระมหาโมคคัลลานะแล้ว
ได้ประทับยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ท่านพระมหา-
โมคคัลลานะได้พูดกะท้าวสักกะจอมเทพว่า ดูก่อนจอมเทพ การถึง
พระพุทธเจ้าเป็นสรณะดีนัก เพราะเหตุแห่งการถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ
สัตว์บางพวกในโลกนี้ เมื่อแตกกายตายไปย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เขา
เหล่านั้นย่อมครอบงำเทวดาพวกอื่นด้วยฐานะ 10 ประการ คือ ด้วยอายุ
วรรณะ สุข ยศ ความเป็นใหญ่ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ
อันเป็นพิทย์ ดูก่อนจอมเทพ การถึงพระธรรมเป็นสรณะดีนัก เพราะ
เหตุแห่งการถึงพระธรรมเป็นสรณะ สัตว์บางพวกในโลกนี้ เมื่อแตกกาย

ตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เขาเหล่านั้นย่อมครอบงำเทวดาพวกอื่น
ด้วยฐานะ 10 ประการ คือ ด้วยอายุ วรรณะ สุข ยศ ความเป็นใหญ่
รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ อันเป็นทิพย์. การถึงพระสงฆ์เป็น
สรณะ ดีนัก. เพราะเหตุแห่งการถึงพระสงฆ์เป็นสรณะ สัตว์บ้างพวกใน
โลกนี้ เมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เขาเหล่านั้นย่อม
ครอบงำเทวดาพวกอื่นด้วยฐานะ 10 ประการ คือ ด้วย อายุ วรรณะ
สุข ยศ ความเป็นใหญ่ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ อันเป็นทิพย์
ท้าวสักกะจอมเทพตรัสว่า ข้าแต่ท่านพระโมคคัลลานะผู้นิรทุกข์ การถึง
พระพุทธเจ้าเป็นสรณะดีนัก เพราะเหตุแห่งการถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ
สัตว์บางพวกในโลกนี้ เมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
เขาเหล่านั้นย่อมครอบงำเทวดาพวกอื่นด้วยฐานะ 10ประการ คือ สัตว์
อายุ. . .อันเป็นทิพย์ การถึงพระธรรมเป็นสรณะดีนัก . . . การถึงพระสงฆ์
เป็นสรณะดีนัก เพราะเหตุแห่งการถึงพระสงฆ์เป็นสรณะ สัตว์บางพวก
ในโลกนี้ เมื่อแตกกายตายไปแล้ว ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เขาเหล่า
นั้นย่อมครอบงำเทวดาพวกอื่นด้วยฐานะ 10 ประการ คือด้วยอายุ วรรณะ
สุข ยศ ความเป็นใหญ่ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ อันเป็นทิพย์.
[531] ครั้งนั้นแล ท้าวสักกะจอมเทพกับเทวดา 600 องค์ ฯลฯ
700 องค์ ฯลฯ 800 องค์ ฯลฯ.
[532] ครั้งนั้นแล ท้าวสักกะจอมเทพกับเทวดา 84,000 องค์
เข้าไปหาท่านพระมหาโมคคัลลานะถึงที่อยู่ ไหว้ท่านพระมหาโมคคัลลานะ
แล้ว ได้ประทับยืนอยู่ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ท่านพระมหา-

โมคคัลลานะได้ พูดกะท้าวสักกะจอมเทพว่า ดูก่อนจอมเทพ การถึง
พระพุทธเจ้าเป็นสรณะดีนัก เพราะเหตุแห่งการถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ
สัตว์บางพวกในโลกนี้ เมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
เขาเหล่านั้นย่อมครอบงำเทวดาพวกอื่นด้วยฐานะ 10 ประการ คือ ด้วย
อายุ . . . อันเป็นทิพย์. การถึงพระธรรมเป็นสรณะดีนัก . . . การถึง
พระสงฆ์เป็นสรณะดีนัก เพราะเหตุแห่งการถึงพระสงฆ์เป็นสรณะ สัตว์
บางพวกในโลกนี้ เมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เขาเหล่า
นั้นย่อมครอบงำเทวดาพวกอื่นด้วยฐานะ 10 ประการ คือ ด้วยอายุ
อันเป็นทิพย์. ท้าวสักกะจอมเทพตรัสว่า ข้าแต่ท่านพระโมคคัลลานะผู้
นิรทุกข์ การถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะดีนัก. . .การถึงพระธรรมเป็นสรณะ
ดีนัก . . .การถึงพระสงฆ์เป็นสรณะดีนักเพราะเหตุแห่งการถึงพระสงฆ์เป็น
สรณะ สัตว์บางพวกในโลกนี้ เมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติโลก
สวรรค์ เขาเหล่านั้นย่อมครอบงำเทวดาพวกอื่นด้วยฐานะ 10 ประการ
คือ ด้วยอายุ . . . อันเป็นทิพย์.
[533] ครั้งนั้นแล ท้าวสักกะจอมเทพกับเทวดา 500 องค์
เข้าไปหาท่านพระมหาโมคคัลลานะถึงที่อยู่ ไหว้ท่านพระมหาโมคคัลลานะ
แล้ว ได้ประทับยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ท่านพระมหา-
โมคคัลลานะได้พูดกะท้าวสักกะจอมเทพว่า ดูก่อนจอมเทพ การประกอบ
ด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระพุทธเจ้าว่า แม้เพราะเหตุนี้ ๆ
พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้นเป็นพระอรหันต์ . . . เป็นผู้เบิกบานแล้ว
เป็นผู้จำแนกธรรม ดังนี้ ดีนัก เพราะเหตุแห่งการประกอบด้วยความ

เลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระพุทธเจ้า สัตว์บางพวกในโลกนี้ เมื่อแตกกาย
ตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เขาเหล่านั้น ย่อมครอบงำเทวดาพวก
อื่นด้วยฐานะ 10 ประการ คือ ด้วยอายุ. . .อันเป็นทิพย์ ดูก่อนจอมเทพ
การประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระธรรมว่า ธรรมอัน
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสดีแล้ว . . . ดูก่อนจอมเทพ การประกอบด้วยความ
เลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระสงฆ์ว่า พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระ-
ภาคเจ้า เป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว . . . ดูก่อนจอมเทพ การประกอบด้วยศีล
พระอริยเจ้าใคร่แล้ว อันไม่ขาด . . . เป็นไปเพื่อสมาธิ ดีนัก เพราะเหตุ
แห่งการประกอบด้วยศีลที่พระอริยเจ้าใคร่แล้ว สัตว์บางพวกในโลกนี้ เมื่อ
แตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เขาเหล่านั้นย่อมครอบงำ
เทวดาพวกอื่นด้วยฐานะ 10 ประการ คือ ด้วยอายุ. . . อันเป็นทิพย์
ท้าวสักกะจอมเทพตรัสว่า ข้าแต่ท่านพระโมคคัลลานะผู้นิรทุกข์ การ
ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระพุทธเจ้าว่า แม้เพราะเหตุ
นี้ ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น. . .ในพระธรรมว่า พระธรรมอัน
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสดีแล้ว . . . ในพระสงฆ์ว่า พระสงฆ์สาวกของ
พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว . . . การประกอบด้วยศีลที่พระ-
อริยเจ้าใคร่แล้ว อันไม่ขาด . . . เป็นไปเพื่อสมาธิ ดีนัก เพราะเหตุแห่ง
การประกอบด้วยศีลที่พระอริยเจ้าใคร่แล้ว สัตว์บางพวกในโลกนี้ เมื่อแตก
กายตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เขาเหล่านั้นย่อมครอบงำเทวดา
พวกอื่นด้วยฐานะ 10 ประการ คือ ด้วยอายุ . . .โผฏฐัพพะ อันเป็นทิพย์.
[534] ครั้งนั้นแล ท้าวสักกะจอมเทพกับเทวดา 600 องค์ ฯลฯ
700 องค์ ฯลฯ 800 องค์ ฯลฯ.

[535] ครั้งนั้นแล ท้าวสักกะจอมเทพกับเทวดา 80,000 องค์
เข้าไปหาท่านพระมหาโมคคัลลานะถึงที่อยู่ ไหว้ท่านพระมหาโมคัลลานะ
แล้ว ได้ประทับยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ท่านพระมหา-
โมคคัลลานะได้พูดกะท้าวสักกะจอมเทพว่า ดูก่อนจอมเทพ การประกอบ
ด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระพุทธเจ้าว่า แม้เพราะเหตุนี้ ๆ
พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น . . . ในพระธรรมว่า พระธรรมอันพระ-
ผู้มีพระภาคเจ้าตรัสดีแล้ว . . . ในพระสงฆ์ว่า พระสงฆ์สาวกของพระผู้มี
พระภาคเจ้า เป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว . . . การประกอบด้วยศีลที่พระอริยเจ้า
ใคร่แล้ว อันไม่ขาด . . . เป็นไปเพื่อสมาธิ ดีนัก เพราะเหตุแห่งการ
ประกอบด้วยศีลที่พระอริยเจ้าใคร่แล้ว สัตว์บางพวกในโลกนี้ เมื่อแตกกาย
ตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เขาเหล่านั้นย่อมครอบงำเทวดาพวกอื่น
ด้วยฐานะ 10 ประการ คือ ด้วยอายุ วรรณะ สุข ยศ ความเป็นใหญ่
รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ อันเป็นทิพย์ ท้าวสักกะจอมเทพตรัสว่า
ข้าแต่ท่านพระโมคคัลลานะผู้นิรทุกข์ การประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่
หวั่นไหวในพระพุทธเจ้าว่า แม้เพราะเหตุนี้ ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์
นั้น . . . ในพระธรรมว่า พระธรรมอันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสดีแล้ว . . .
ในพระสงฆ์ว่า พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้ปฏิบัติดีแล้ว. . .
การประกอบด้วยศีลที่พระอริยเจ้าใคร่แล้ว อันไม่ขาด. . . เป็นไปเพื่อสมาธิ
ดีนัก เพราะเหตุแห่งการประกอบด้วยศีลที่พระอริยเจ้าใคร่แล้ว สัตว์บาง
พวกในโลกนี้ เมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เขาเหล่านั้น
ย่อมครอบงำเทวดาพวกอื่นด้วยฐานะ 10 ประการ คือ ด้วยอายุ . . .
โผฏฐัพพะ อันเป็นทิพย์.
จบ สักกสูตรที่ 10

อรรถกถาสักกสูตรที่ 10



บทว่า อเวจฺจปฺปสาเทน ได้แก่ ด้วยความเลื่อมใสที่ไม่หวั่นไหว.
บทว่า ทสหิ ฐาเนหิ คือด้วยเหตุ 10. บทว่า อธิคณฺหนฺติ คือ ย่อม
ครอบงำ คือล่วงเกิน. คำที่เหลือมีเนื้อความง่ายทั้งนั้น ด้วยประการฉะนี้.
จบ อรรถกถาสักกสูตรที่ 10
จบ อรรถกถาโมคคัลลานสังยุต.

11. จันทนสูตร



ว่าด้วยพระมหาโมคคัลลานเถระแสดงธรรมแก่จันทนเทพบุตร



[536] ครั้งนั้นแล จันทนเทพบุตร ฯลฯ ครั้งนั้นแล สุยาม
เทพบุตร ฯลฯ ครั้งนั้นแล สันตุสิจาเทพบุตร ฯลฯ ครั้งนั้นแล สุนิมมิต
เทพบุตร ฯลฯ ครั้งนั้นแล วสวัตตีเทพบุตร ฯลฯ ( เปยยาล 5 ประการนี้
พึงให้พิสดารเหมือนกับในสักกสูตร )
จบ จันทนสูตรที่ 11
จบ โมคคัลลานสังยุต

รวมพระสูตรที่มีในสังยุตนี้ คือ


1. สวิตักกปัญหาสูตร 2. อวิตักกปัญหาสูตร 3 สุขปัญหาสูตร
4. อุเปกขาปัญหาสูตร 5. อากาสานัญจายตนฌานปัญหาสูตร 6. วิญญา-
ณัญจายตนฌานปัญหาสูตร 7. อากิญจัญญายตนฌานปัญหาสูตร 8. เนว-
สัญญานาสัญญายตนฌานปัญหาสูตร 9. อนิมิตตปัญหาสูตร 10. สักกสูตร
11. จันทนสูตร.