เมนู

10. ทุติยผัสสายตนสูตร


ว่าด้วยผู้ไม่ทราบชัดความเกิดเป็นต้นเป็นผู้ไกลจากธรรมวินัย


[86] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุ
บางรูปไม่ทราบชัดความเกิด ความดับ คุณ โทษ และอุบายเครื่องสลัดออก
แห่งผัสสายตนะ 6 ตามความเป็นจริง พรหมจรรย์อันภิกษุนั้นไม่อยู่จบแล้ว
เธอชื่อว่าเป็นผู้ไกลจากธรรมวินัยนี้ เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้
แล้ว ภิกษุรูปหนึ่งได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
ก็ข้าพระองค์เป็นผู้ฉิบหายแล้วในธรรมวินัยนี้ เพราะข้าพระองค์ไม่ทราบ
ชัดความเกิด ความดับ คุณ โทษ และอุบายเครื่องสลัดออกแห่งผัสสายตนะ
6 ตามความเป็นจริง.
พ. ดูก่อนภิกษุ เธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน เธอพิจารณา
เห็นจักษุว่า นั่นไม่ใช่ของเรา เราไม่เป็นนั่น นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา
ดังนี้หรือ.
ภิ. อย่างนั้น พระเจ้าข้า.
พ. ดีละ. ภิกษุ ในข้อนี้ การที่เธอพิจารณาเห็นจักษุว่า นั่น ไม่ใช่
ของเรา เราไม่เป็นนั่น นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ดังนี้ จักเป็นอันเธอเห็นดี
แล้วด้วยปัญญาอันชอบ ตามความเป็นจริง ด้วยอาการอย่างนี้ ผัสสายตนะ
ที่ 1 นี้จักเป็นอันเธอละได้แล้ว เพื่อมิให้ผัสสายตนะนั้นเกิดขึ้นอีกต่อไป ฯลฯ
ภิ. อย่างนั้น พระเจ้าข้า.

พ. ดีละ ภิกษุ ในข้อนี้ การที่เธอพิจารณาเห็นใจว่า นั่นไม่ใช่
ของเรา เราไม่เป็นนั่น นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ดังนี้ จักเป็นอันเธอเห็นดี
แล้วด้วยปัญญาอันชอบ ตามความเป็นจริง ด้วยอาการอย่างนี้ ผัสสายตนะ
ที่ 6 นี้จักเป็นอันเธอละได้แล้ว เพื่อมิให้ผัสสายตนะนั้นเกิดขึ้นอีกต่อไป.
จบ ทุติยผัสสายตนสูตรที่ 10

อรรถกถาทุติยผัสสายตนสูตรที่ 10


ในทุติยผัสสายตนสูตรที่ 10 มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า ปนสฺสาสํ แปลว่า ฉิบหายแล้ว. อธิบายว่า เราชื่อว่าเป็น
ผู้ฉิบหายแล้วแล. ในบทว่า อายตึ อปุนพฺภวาย นี้ นิพพานชื่อว่าความ
ไม่เกิดอีกต่อไป. อธิบายว่า ผัสสายตนะ จักเป็นอันเธอละได้แล้ว เพื่อ
ประโยชน์แก่การไม่บังเกิด.
จบ อรรถกถาทุติยผัสสายตนสูตรที่ 10

11. ตติยผัสสายตนสูตร


ว่าด้วยผู้ไม่ทราบชัดความเกิดเป็นต้นเป็นผู้ไกลจากธรรมวินัย


[ 87 ] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุ
บางรูปไม่ทราบชัดความเกิด ความดับ คุณ โทษ และอุบายเครื่องสลัด
ออกแห่งผัสสายตนะ 6 ตามความเป็นจริง พรหมจรรย์อันเธอไม่อยู่จบ
แล้ว เธอชื่อว่าเป็นผู้ไกลจากธรรมวินัยนี้ เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัส