เมนู

6. พาหิรอนัตตสูตร


ว่าด้วยความเป็นอนัตตาแห่งอายตนะภายนอก


[ 6 ] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย รูปเป็นอนัตตา สิ่งใดเป็นอนัตตา
สิ่งนั้นท่านทั้งหลายพึงเห็นด้วยปัญญาอันชอบตามความเป็นจริงอย่างนี้ว่า
นั่นไม่ใช่ของเรา เราไม่เป็นนั่น นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา. เสียง กลิ่น
รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ เป็นอนัตตา สิ่งใดเป็นอนัตตา สิ่งนั้น
ท่านทั้งหลายพึงเห็นด้วยปัญญาอันชอบตามความเป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่
ใช่ของเรา เราไม่เป็นนั่น นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา . . . .
จบ พาหิรอนัตตสูตรที่ 6

อรรถกถาพาหิรทุกขสูตรที่ 5 - พาหิรอนัตตสูตรที่ 6


ในสูตรที่ 5 และสูตรที่ 6 มีนัยเช่นที่กล่าวแล้วในสูตรที่ 2 และ
สูตรที่ 3 นั่นแล.
จบ อรรถกถาพาหิรทุกขสูตรที่ 5 - พาหิรอนัตตสูตรที่ 6

7. อตีตานาคตปัจจุปันนานิจจสูตร1


ว่าด้วยความเป็นอนิจจังแห่งอายตนะภายในทั้งสามกาล


[ 7 ] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย จักษุที่เป็นอดีตและอนาคต เป็นของ
ไม่เที่ยง จะกล่าวไปไยถึงจักษุอันเป็นปัจจุบันเล่า อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว
เห็นอยู่อย่างนี้ ย่อมไม่มีเยื่อใยในจักษุที่เป็นอดีต ไม่เพลิดเพลินจักษุที่
1. อรรถกถาสูตรที่ 7 - 10 แก้รวมกันไว้ท้ายสูตรที่ 10.

เป็นอนาคต ย่อมปฏิบัติเพื่อเบื่อหน่าย เพื่อคลายกำหนัด เพื่อดับซึ่งจักษุที่
เป็นปัจจุบัน หู จมูก ลิ้น กาย ใจที่เป็นอดีตและอนาคต เป็นของไม่เที่ยง
จะกล่าวไปไยถึงใจที่เป็นปัจจุบันเล่า อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เห็นอยู่
อย่างนี้ ย่อมไม่มีเยื่อใยในใจที่เป็นอดีต ไม่เพลิดเพลินใจที่เป็นอนาคต
ย่อมปฏิบัติเพื่อหน่าย เพื่อคลายกำหนัด เพื่อดับซึ่งใจที่เป็นปัจจุบัน.
จบ อตีตานาคตปัจจุปันนานิจจสูตรที่ 7

8. อตีตานาคตปัจจุปันนทุกขสูตร


ว่าด้วยความเป็นทุกข์แห่งอายตนะภายในทั้งสามกาล


[ 8 ] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย จักษุที่เป็นอดีตและอนาคต เป็นทุกข์
จะกล่าวไปใยถึงจักษุที่เป็นปัจจุบันเล่า อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เห็นอยู่
อย่างนี้ ย่อมไม่มีเยื่อใยในจักษุที่เป็นอดีต ไม่เพลิดเพลินจักษุที่เป็นอนาคต
ย่อมปฏิบัติเพื่อหน่าย เพื่อคลายกำหนัด เพื่อดับซึ่งจักษุที่เป็นปัจจุบัน หู
จมูก ลิ้น กาย ใจ ที่เป็นอดีตและอนาคต เป็นทุกข์ จะกล่าวไปใยถึงใจ
ที่เป็นปัจจุบันเล่า อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้ ย่อมไม่มีเยื่อใย
ในใจที่เป็นอดีต ไม่เพลิดเพลินใจที่เป็นอนาคต ย่อมปฏิบัติเพื่อเบื่อหน่าย
เพื่อคลายกำหนัด เพื่อดับซึ่งใจที่เป็นปัจจุบัน.
จบ อตีตานาคตปัจจุปันนทุกขสูตรที่ 8