เมนู

4. ทุติยสมิทธิสูตร


ว่าด้วยสิ่งที่เรียกว่าสัตว์


[ 73 ] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ที่เรียกว่า สัตว์ สัตว์ ดังนี้ ด้วย
เหตุเพียงเท่าไร พระเจ้าข้า จึงเป็นสัตว์หรือบัญญัติว่าสัตว์ ฯลฯ
จบ ทุติยสมิทธิสูตรที่ 4

5. ตติยสมิทธิสูตร


ว่าด้วยสิ่งที่เรียกว่าทุกข์


[ 74 ] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ที่เรียกว่า ทุกข์ ทุกข์ ดังนี้ ด้วย
เหตุเพียงเท่าไร พระเจ้าข้า จะพึงเป็นทุกข์ หรือบัญญัติว่าทุกข์ ฯลฯ
จบ ตติยสมิทธิสูตรที่ 5

อรรถกถาสมิทธิสูตรที่ 3 - 5


ในสมิทธิมารปัญจสูตรที่ 3 มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า สมิทฺธิ ความว่า ได้ชื่ออย่างนี้เพราะมีอัตตภาพบริบูรณ์.
เล่ากันว่า พระเถระนั้นมีอัตตภาพงามน่าเลื่อมใส บริบูรณ์ด้วยอาการทั้งปวง
เหมือนพวงมาลาที่แขวนไว้ เหมือนห้องมาลาที่ตกแต่งไว้ ฉะนั้นจึงนับว่า
สมิทธิ นั่นแล.
ด้วยบทว่า มาโร ท่านสมิทธิถามถึงความตาย คำว่า มาร ในคำว่า
มารปญฺญตฺติ เป็นนามบัญญัติ เป็นนามไธย. ในบทว่า อตฺถิ ตตฺถ มเร
วา มารปญฺญตฺติ วา
นั้น บทว่า มรณํ วา มรณํ นี้ท่านแสดงว่า
นามมีอยู่. สูตรที่ 4 ง่ายทั้งนั้น. สูตรที่ 5 ก็เหมือนกัน.
จบ อรรถกถาสมิทธิสูตรที่ 3 - 5

6. จตุตถสมิทธิสูตร


ว่าด้วยสิ่งที่เรียกว่าโลก


[ 75 ] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ที่เรียกว่า โลก โลก ดังนี้ ด้วย
เหตุเพียงเท่าไร จึงเป็นโลก หรือบัญญัติว่าโลก. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
ก่อนสมิทธิ จักษุ รูป จักษุวิญญาณ ธรรมที่พึงจะรู้แจ้งด้วยจักษุวิญญาณ
มีอยู่ ณ ที่ใดโลกหรือการบัญญัติว่าโลกก็มีอยู่ ณ ที่นั้น ฯลฯใจ ธรรมารมณ์
มโนวิญญาณ ธรรมที่จะพึงรู้แจ้งด้วยมโนวิญญาณ มีอยู่ ณ ที่ใด โลกหรือ
การบัญญัติว่าโลกก็มีอยู่ ณ ที่นั้น
[76] ดูก่อนสมิทธิ จักษุ รูป จักษุวิญญาณ ธรรมที่จะพึงรู้
แจ้งด้วยจักษุวิญญาณ ไม่มี ณ ที่ใด โลกหรือการบัญญัติว่าโลกก็มี ณ ที่นั้น
ฯลฯ ใจ ธรรมารมณ์ มโนวิญญาณ ธรรมที่จะพึงรู้แจ้งด้วยมโนวิญญาณ
ไม่มี ณ ที่ใด โลกหรือการบัญญัติว่าโลกก็มี ณ ที่นั้น.
จบ จตุตถสมิทธิสูตรที่ 6

อรรถกถาสมิทธิสูตรที่ 6


ในสมิทธิสูตรที่ 6 มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ .
บทว่า โลโก ความว่า ที่ชื่อว่า โลก เพราะอรรถว่า แตกทำลาย.
ในสูตรทั้ง 5 ตั้งแต่สูตรที่พระมิคชาลเถระอาราธนา ตรัสเฉพาะวัฏฏะและ
วิวัฏฏะเท่านั้น ด้วยประการฉะนี้.
จบ อรรถกถาสมิทธิสูตรที่ 6