เมนู

กา. ท่านพระอานนท์ ไม่ถูกเลย โคดำไม่เกี่ยวเนื่องกับโคขาว
ทั้งโคขาวก็ไม่เกี่ยวเนื่องกับโคดำ โคคำกับโคขาวนั้น เขาผูกติดกันด้วยสาย
คร่าวหรือด้วยเชือกเส้นเดียวกัน สายคร่าวหรือเชือกเส้นเดียวกันนั้น เป็น
เครื่องผูกโคทั้งสองนั้นให้ติดกันฉันใด.
อา. ท่านกามภู ข้อนี้ก็ฉันนั้นเหมือนกัน จักษุเป็นสังโยชน์
เครื่องผูกของรูป รูปก็เป็นสังโยชน์เครื่องผูกของจักษุหามิได้ แต่ฉันทราคะ
ความพอใจรักใคร่เกิดขึ้นเพราะอาศัยจักษุและรูปทั้งสองนั้นเป็นสังโยชน์
เครื่องผูกจักษุและรูปนั้น ฯลฯ ใจเป็นสังโยชน์เครื่องผูกของธรรมารมณ์
ธรรมารมณ์ก็เป็นสังโยชน์เครื่องผูกของใจหามิได้ แต่ฉันทราคะความพอใจ
รักใคร่เกิดขึ้นเพราะอาศัยใจและธรรมารมณ์ทั้งสองนั้น เป็นเครื่องผูกใจ
และอารมณ์นั้น.
จบ กามภูสูตรที่ 6

อรรถกถากามภูสูตรที่ 6


กามภูสูตรที่ 6 ง่ายทั้งนั้น.
จบ อรรถกถากามสูตรที่ 6

7. อุทายีสูตร


ว่าด้วยปัญหาของพระอุทายีภิกษุ


[300] สมัยหนึ่ง ท่านพระอานนท์และท่านพระอุทายี อยู่ ณ
โฆสิตาราม กรุงโกสัมพี ครั้งนั้น เป็นเวลาเย็น ท่านพระอุทายีออกจากที่

พักแล้ว เข้าไปหาท่านพระอานนท์ถึงที่อยู่ ได้ปราศรัยกับท่านพระอานนท์
ครั้นผ่านการปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
ครั้นแล้วได้กล่าวกะท่านพระอานนท์ว่า ท่านพระอานนท์ กายนี้ พระผู้
มีพระภาคเจ้าตรัสบอกเปิดเผย ประกาศแล้วโดยปริยายต่าง ๆ ว่า แม้เพราะ
เหตุนี้ กายนี้เป็นอนัตตาดังนี้ ฉันใด แม้วิญญาณนี้ ท่านอาจจะบอก แสดง
บัญญัติ ตั้งแต่ เปิดเผย จำแนก กระทำให้ตื้นว่า แม้เพราะเหตุนี้ วิญญาณ
นี้เป็นอนัตตา ฉันนั้นหรือ.
ท่านพระอานนท์กล่าวว่า ท่านพระอุทายี กายนี้ พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าตรัสบอก เปิดเผย ประกาศแล้วโดยปริยายต่าง ๆ ว่า แม้เพราะ
เหตุนี้ กายนี้เป็นอนัตตา ดังนี้ ฉันใด แม้วิญญาณนี้ ผมอาจจะบอก
แสดง บัญญัติ แต่งตั้ง เปิดเผย จำแนก กระทำให้ตื้นว่า แม้เพราะ
เหตุนี้ วิญญาณนี้เป็นอนัตตา ฉันนั้น.
[301] ท่านพระอุทายี จักษุวิญญาณย่อมเกิดขึ้นเพราะอาศัยจักษุ
และรูปหรือ.
อุ. อย่างนั้น ท่านผู้มีอายุ.
อา. เหตุและปัจจัยที่อาศัยจักษุวิญญาณเกิดขึ้น พึงดับไปหมดสิ้น
หาส่วนเหลือมิได้ จักษุวิญญาณจะปรากฏบ้างหรือหนอ.
อุ. ไม่ปรากฏเลย ท่านผู้มีอายุ.
อา. แม้โดยปริยายนี้แล จักษุวิญญาณนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า
ตรัสบอก เปิดเผย ประกาศแล้วว่า แม้เพราะเหตุนี้ วิญญาณนี้เป็นอนัตตา
ดังนี้ ฯ ฯ ท่านพระอุทายี มโนวิญญาณย่อมเกิดขึ้นเพราะอาศัยใจและ
ธรรมารมณ์หรือ.

อุ. อย่างนั้น ท่านผู้มีอายุ.
อา. เหตุและปัจจัยที่อาศัยมโนวิญญาณเกิดขึ้น พึงดับไปหมดสิ้น
หาส่วนเหลือมิได้ มโนวิญญาณจะปรากฏบ้างหรือหนอ.
อุ. ไม่ปรากฏเลย ท่านผู้มีอายุ.
อา. ท่านผู้มีอายุ แม้โดยปริยายนี้แล มโนวิญญาณนี้ พระผู้มี-
พระภาคเจ้าตรัสบอก เปิดเผย ประกาศแล้วว่า แม้เพราะเหตุนี้ วิญญาณ
นี้เป็นอนัตตา.
[302] ท่านพระอุทายี บุรุษต้องการแก่นไม้ เที่ยวเสาะแสวงหา
แก่นไม้ ถือเอาขวานอันคมเข้าไปสู่ป่า พบต้นกล้วยใหญ่ ตรง ใหม่ ใหม่
ในป่านั้น พึงตัดที่โคนต้นแล้วตัดที่ปลาย ครั้นแล้วลอกกาบออก แม้กระพี้
ที่ต้นกล้วยนั้นก็ไม่พบ ที่ไหนจะพบแก่นได้ ฉันใด ท่านพระอุทายี ภิกษุ
จะพิจารณาหาตัวตนหรือสิ่งที่เป็นตัวตนในผัสสายตนะ 6 ไม่พบ. ฉันนั้น
เหมือนกัน เมื่อเล็งเห็นอยู่อย่างนี้ ก็ไม่ยืดถือสิ่งไร ๆ ในโลก เมื่อไม่ยืดถือ
ก็ไม่ดิ้นรน เมื่อไม่ดิ้นรน ก็ดับสนิทจำเพาะตน ย่อมรู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว
พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็น
อย่างนี้มิได้มี.
จบ อุทายีสูตรที่ 7

อรรถกถาอุทายีสูตรที่ 7


ในอุทายีสูตรที่ 7 มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ .
บทว่า อเนกปริยาเยน ได้แก่ โดยเหตุเป็นอันมาก บาลีว่า
อิติปายํ ดังนี้ก็มี. ในสูตรนี้ตรัสอนัตตลักขณะโดยความเป็นของไม่เที่ยง.
จบ อรรถกถาอุทายีสูตรที่ 7