เมนู

คือ จักษุ รูป จักษุวิญญาณ และธรรมที่จะพึงรู้แจ้งด้วยจักษุวิญญาณ ฯลฯ
ใจ ธรรมารมณ์ มโนวิญญาณ และธรรมที่จะพึงรู้แจ้งด้วยมโนวิญญาณ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลยังไม่รู้ยิ่ง ยังไม่กำหนดรู้ ยังคลายกำหนัดไม่ได้
ยังละไม่ได้ ซึ่งสิ่งทั้งปวงนี้แล เป็นผู้ไม่ควรสิ้นทุกข์.

ว่าด้วยผู้รู้ยิ่งย่อมละสิ่งทั้งปวงได้


[ 30 ] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ส่วนบุคคลผู้รู้ยิ่ง กำหนดรู้ คลาย
กำหนัดได้ ละได้ซึ่งสิ่งทั้งปวง เป็นผู้ควรสิ้นทุกข์ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
สิ่งทั้งปวง คืออะไร. ที่บุคคลรู้ยิ่ง กำหนดรู้ คลายกำหนัดได้ ละได้
เป็นผู้ควรสิ้นทุกข์ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย จักษุ รูป จักษุวิญญาณ และ
ธรรมที่จะพึงรู้แจ้งด้วยจักษุวิญญาณ ฯลฯ ใจ ธรรมารมณ์ มโนวิญญาณ
และธรรมที่จะพึงรู้แจ้งด้วยมโนวิญญาณ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลรู้ยิ่ง
กำหนดรู้ คลายกำหนัดได้ ละได้ซึ่งสิ่งทั้งปวงนี้แล เป็นผู้ควรสิ้นทุกข์.
จบ ทุติปริชานสูตรที่ 5

อรรถกถาทุติยปริชานสูตรที่ 5


ในทุติยปริชานสูตรที่ 5 มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
ด้วยบทว่า จกฺขุวิญฺญาณวิญฺญาตพฺพา ธมฺมา ท่านแสดงถือเอา
เฉพาะรูปที่ถือเอาในหนหลัง หรือถือเอารูปที่ปรากฏในหนหลัง แต่ในที่นี้มี
ได้ปรากฏ แต่นี้ก็เป็นสันนิษฐานในข้อนี้. บทว่า อาปาถคตํ ได้แก่ถือ
เอารูปที่ไม่ปรากฏเท่านั้น แต่ในที่นี้หมายเอาขันธ์ 3 ที่สัมปยุตด้วยจักษุ
วิญญาณ. ด้วยว่าขันธ์เหล่านั้น ท่านกล่าวว่า จกฺขุวิญฺญาตพฺพา
เพราะพึงรู้แจ้งพร้อมกับจักษุวิญาณ แม้ในบทที่เหลือก็นัยนี้เหมือนกัน.
จบ อรรถกถาทุติยปริชานสูตรที่ 5

6. อาทิตตปริยายสูตร


ว่าด้วยสิ่งทั้งปวงเป็นของร้อน


[ 31 ] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ตำบลคยาสีสะ ริมฝั่ง
แม่น้ำคยา พร้อมกับภิกษุ 1,000 รูป ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้า
ได้ตรัสกะพระภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่งทั้งปวงเป็นของร้อน
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็สิ่งทั้งปวงเป็นของร้อน คืออะไร. คือ จักษุ รูป
จักษุวิญญาณ จักษุสัมผัส เป็นของร้อน. แม้สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรือ
อทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะจักษุสัมผัสเป็นปัจจัย ก็เป็นของร้อน
ร้อนเพราะอะไร เรากล่าวว่า ร้อนเพราะไฟ คือ ราคะ โทสะ โมหะ
ร้อนเพราะชาติ ชรา มร ะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และ
อุปายา ฯลฯ ใจ ธรรมารมณ์ มโนวิญญาณ มโนสัมผัส. เป็นของร้อน
แม้สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะมโน-
สัมผัสเป็นปัจจัย ก็เป็นของร้อน ร้อนเพราะอะไร เรากล่าวว่า ร้อน
เพราะไฟ คือ ราคะ โทสะ โมหะ ร้อนเพราะชาติ ชรา มรณะ โสกะ
ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัสและอุปายาส ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกผู้ได้
สดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้ ย่อมเบื่อหน่ายที่ในจักษุ ทั้งในรูป ทั้งในจักษุ
วิญญาณ ทั้งในจักษุสัมผัส ทั้งในสุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุข-
เวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะจักษุสัมผัสเป็นปัจจัย ฯลฯ ย่อมเบื่อหน่ายทั้งในใจ
ทั้งในธรรมารมณ์ ทั้งในมโนวิญญาณ ทั้งในมโนสัมผัส ทั้งในสุขเวทนา