เมนู

9. ตติยฉันทราคสูตร


ว่าด้วยการละฉันทราคะในสิ่งที่เป็นอนัตตา


ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดเป็นอนัตตา เธอทั้งหลายพึงละฉันทราคะ
ในสิ่งนั้นเสีย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็สิ่งอะไรเล่าเป็นอนัตตา. ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย จักษุเป็นอนัตตา เธอทั้งหลายพึงละฉันทราคะในจักษุนั้นเสีย
หูเป็นอนัตตา จมูกเป็นอนัตตา ลิ้นเป็นอนัตตา กายเป็นอนัตตา ใจเป็น
อนัตตา เธอทั้งหลายพึงละฉันทราคะในใจนั้นเสีย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
สิ่งใดเป็นอนัตตา เธอทั้งหลายพึงละฉันทราคะในสิ่งนั้นเสีย.
จบ ตติยฉันทราคสูตรที่ 9

10. จตุตถฉันทสูตร


ว่าด้วยการละฉันทะในสิ่งที่ไม่เที่ยง


[260] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดไม่เที่ยง เธอทั้งหลายพึงละ
ฉันทะในสิ่งนั้นเสีย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็สิ่งอะไรเล่าไม่เที่ยง. ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย รูปไม่เที่ยง เธอทั้งหลายพึงละฉันทะในรูปนั้นเสีย เสียง
ไม่เที่ยง กลิ่นไม่เที่ยง รสไม่เที่ยง โผฏฐัพพะไม่เที่ยง ธรรมารมณ์ไม่เที่ยง
เธอทั้งหลายพึงละฉันทะในธรรมารมณ์นั้นเสีย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่ง
ใดไม่เที่ยง เธอทั้งหลายพึงละฉันทะในสิ่งนั้นเสีย.
จบ จตุตถฉันทสูตรที่ 10

11. จตุตถราคสูตร


ว่าด้วยการละราคะในสิ่งที่ไม่เที่ยง


ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดไม่เที่ยง เธอทั้งหลายพึงละราคะในสิ่ง
นั้นเสีย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็สิ่งอะไรเล่าไม่เที่ยง ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
รูปไม่เที่ยง เธอทั้งหลายพึงละราคะในรูปนั้นเสีย เสียงไม่เที่ยง กลิ่น
ไม่เที่ยง รสไม่เที่ยง โผฏฐัพพะไม่เที่ยง ธรรมารมณ์ไม่เที่ยง เธอทั้งหลาย
พึงละราคะในธรรมารมณ์นั้นเสีย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดไม่เที่ยง เธอ
ทั้งหลายพึงละราคะในสิ่งนั้นเสีย.
จบ จตุตถราคสูตรที่ 11

12. จตุตถฉันทราคสูตร


ว่าด้วยการละฉันทราคะในสิ่งที่ไม่เที่ยง


ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดไม่เที่ยง เธอทั้งหลายพึงละฉันทราคะ
ในสิ่งนั้นเสีย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็สิ่งอะไรเล่าไม่เที่ยง. ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย รูปไม่เที่ยง เธอทั้งหลายพึงละฉันทราคะในรูปนั้นเสีย เสียง
ไม่เที่ยง กลิ่นไม่เที่ยง รสไม่เที่ยง โผฏฐัพพะไม่เที่ยง ธรรมารมณ์ไม่เที่ยง
เธอทั้งหลายพึงละฉันทราคะในธรรมารมณ์นั้นเสีย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
สิ่งใดไม่เที่ยง เธอทั้งหลายพึงละฉันทราคะในสิ่งนั้นเสีย.
จบ จตุตถฉันทราคสูตรที่ 12