เมนู

11. สักกายทิฏฐิสูตร


ว่าด้วยการละสักกายทิฏฐิ


[255] ครั้งนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า
ถึงที่ประทับ ฯลฯ ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
บุคคลรู้อยู่อย่างไร เห็นอยู่อย่างไร จึงจะละสักกายทิฏฐิได้. พระผู้มี-
พระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ บุคคลรู้เห็นจักษุแลโดยความเป็นทุกข์
จึงจะละสักกายทิฏฐิได้ รู้เห็นรูปโดยความเป็นทุกข์ จึงจะละสักกายทิฏฐิได้
รู้เห็นจักษุวิญญาณโดยความเป็นทุกข์ จึงจะละสักกายทิฏฐิได้ รู้เห็นจักษุ-
สัมผัสโดยความเป็นทุกข์ จึงจะละสักกายทิฏฐิได้ รู้เห็นแม้สุขเวทนา
ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนาที่เกิดขึ้นเพระจักษุสัมผัสเป็นปัจจัย
โดยความเป็นทุกข์ จึงจะละสักกายทิฏฐิได้ บุคคลรู้เห็นหู รู้เห็นจมูก
รู้เห็นลิ้น รู้เห็นกาย รู้เห็นใจโดยความเป็นทุกข์ จึงจะละสักกายทิฏฐิได้
รู้เห็นธรรมารมณ์โดยความเป็นทุกข์ จึงจะละสักกายทิฏฐิได้ รู้เห็นมโน-
วิญญาณโดยความเป็นทุกข์ จึงจะละสักกายทิฏฐิได้ รู้เห็นมโนสัมผัสโดย
ความเป็นทุกข์ จึงจะละสักกายทิฏฐิได้ รู้เห็นแม้สุขเวทนา ทุกขเวทนา
หรืออทุกขมสุขเวทนาที่เกิดขึ้นเพราะมโนสัมผัสเป็นปัจจัย โดยความเป็น
ทุกข์ จึงจะละสักกายทิฏฐิได้ ดูก่อนภิกษุ เมื่อบุคคลรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่
อย่างนี้แล จึงจะละสักกายทิฏฐิได้.

12. อัตตานุทิฏฐิสูตร


ว่าด้วยการละอัตตานุทิฏฐิ


[256] ครั้งนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า
ถึงที่ประทับ ฯลฯ ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
บุคคลรู้อยู่อย่างไร เห็นอยู่อย่างไร จึงจะละอัตตานุทิฏฐิได้. พระผู้มี
พระเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ บุคคลรู้เห็นจักษุแล โดยความเป็นอนัตตา
จึงจะละอัตตานุทิฏฐิได้ รู้เห็นรูปโดยความเป็นอนัตตา จึงจะละอัตตานุ-
ทิฏฐิได้ รู้เห็นจักษุวิญญาณโดยความเป็นอนัตตา จึงจะละอัตตานุทิฏฐิได้
รู้เห็นจักษุสัมผัสโดยความเป็นอนัตตา จึงจะละอัตตานุทิฏฐิได้ รู้เห็นแม้
สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนาที่เกิดขึ้นเพราะจักษุสัมผัส
เป็นปัจจัย โดยความเป็นอนัตตา จึงจะละอัตตานุทิฏฐิได้ บุคคลรู้เห็นหู
รู้เห็นจมูก รู้เห็นลิ้น รู้เห็นกาย รู้เห็นใจโดยความเป็นอนัตตา จึงจะละ
อัตตานุทิฏฐิได้ รู้เห็นธรรมารมณ์โดยความเป็นอนัตตา จึงจะละอัตตานุ-
ทิฏฐิได้ รู้เห็นมโนวิญญาณโดยความเป็นอนัตตา จึงจะละอัตตานุทิฏฐิได้
รู้เห็นมโนสัมผัสโดยความเป็นอนัตตา จึงจะละอัตตานุทิฏฐิได้ รู้เห็นแม้
สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนาที่เกิดขึ้นเพราะมโนสัมผัส
เป็นปัจจัย โดยความเป็นอนัตตา จึงจะละอัตตานุทิฏฐิได้ ดูก่อนภิกษุ
เมื่อบุคคลรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้แล จึงจะละอัตตานุทิฏฐิได้.
จบ อัตตานุทิฏฐิสูตรที่ 12
นันทิขยวรรคที่ 1