เมนู

6. ปัญจสิขสูตร1


ว่าด้วยทรงแก้ปัญหาของปัญจสิขเทพบุตร


[180] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ ภูเขา
คิชฌกูฏ กรุงราชคฤห์ ครั้งนั้น ปัญจสิขเทพบุตรบุตรแห่งคนธรรพ์ เข้า
ไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว
ยืนอยู่ ณ ที่พระส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เหตุปัจจัยอะไรหนอ ที่เป็นเครื่องทำให้สัตว์บางจำพวก
ในโลกนี้ ไม่ปรินิพพานในปัจจุบัน เหตุปัจจัยอะไร ที่เป็นเครื่องทำให้
สัตว์บางพวกในโลกนี้ ปรินิพพานในปัจจุบัน.
[181] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนปัญจสิขะ รูปที่จะพึง
รู้แจ้งด้วยจักษุ ฯลฯ ธรรมารมณ์ที่จะพึงรู้แจ้งด้วยใจ อันน่าปรารถนา น่า
ใคร่ น่าพอใจ น่ารัก อาศัยความใคร่ ชวนให้กำหนัด มีอยู่ หากภิกษุ
เพลิดเพลิน สรรเสริญ หมกมุ่น พัวพันธรรมารมณ์นั้น เมื่อเธอเพลิด
เพลิน สรรเสริญ หมกมุ่น พัวพันธรรมารมณ์นั้นอยู่ วิญญาณอันอาศัย
ตัณหานั้นย่อมมี อุปาทานอันอาศัยตัณหานั้นย่อมมี ภิกษุยังมีอุปาทาน
ยังไม่ปรินิพพาน ดูก่อนปัญจสิขะ เหตุปัจจัยนี้แล เป็นเครื่องทำให้สัตว์
บางพวกในโลกนี้ ไม่ปรินิพพาน ในปัจจุบัน.
[182] ดูก่อนปัญจสิขะ รูปที่จะพึงรู้แจ้งด้วยจักษุ อันน่า
ปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ น่ารัก อาศัยความใคร่ ชวนให้กำหนัด
มีอยู่ ฯลฯ ธรรมารมณ์ที่จะพึงรู้แจ้งด้วยใจ อันน่าปรารถนา น่าใคร่
1. สูตรที่ 6 อรรถกถาแก้ว่าง่ายทั้งนั้น.

น่าพอใจ น่ารัก อาศัยความใคร่ ชวนให้กำหนัด มีอยู่ หากภิกษุไม่
เพลิดเพลิน ไม่สรรเสริญ ไม่หมกมุ่น ไม่พัวพันธรรมารมณ์นั้น เมื่อ
เธอไม่เพลิดเพลิน ไม่สรรเสริญ ไม่หมกมุ่น ไม่พัวพันธรรมารมณ์นั้น
อยู่ วิญญาณอันอาศัยตัณหานั้นย่อมไม่มี อุปาทานอันอาศัยตัณหานั้นย่อม
ไม่มี ภิกษุผู้ไม่มีอุปาทานย่อมปรินิพพาน ดูก่อนปัญจสิขะ เหตุปัจจัย
นี้แล เป็นเครื่องทำให้สัตว์บางพวกในโลกนี้ ปรินิพพานในปัจจุบัน.
จบ ปัญจสิขสูตรที่ 6

7. สารีปุตตสูตร


ว่าด้วยผู้คุ้มครองทวารอินทรีย์ได้ก็ประพฤติพรหมจรรย์ได้


[183] สมัยหนึ่ง ท่านพระสารีบุตรอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน
อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี ครั้งนั้น ภิกษุรูปหนึ่ง
เข้าไปหาท่านพระสารีบุตรถึงที่อยู่ ได้ปราศรัยกับท่านพระสารีบุตร ครั้น
ผ่านการปราศรัย พอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
ครั้นแล้ว ได้กล่าวกะท่านพระสารีบุตรว่า ท่านสารีบุตร ภิกษุผู้เป็นสัทธิ
วิหาริกของท่านลาสิกขาสึกเสียแล้ว.
ท่านพระสารีบุตรกล่าวว่า ดูก่อนผู้มีอายุ ผู้ที่ไม่คุ้มครองทวารใน
อินทรีย์ทั้งหลาย ไม่รู้ประมาณในโภชนะ ไม่ประกอบความเพียร ย่อม
เป็นเช่นนี้แหละ ดูก่อนผู้มีอายุ ข้อที่ภิกษุไม่คุ้มครองทวารในอินทรีย์
ทั้งหลาย ไม่รู้จักประมาณในโภชนะ ไม่ประกอบความเพียร จักประพฤติ
พรหมจรรย์ให้บริสุทธิ์ บริบูรณ์ ติดต่อกันไปจนตลอดชีวิตนั้น ไม่ใช่ฐานะ