เมนู

ภิ. ไม่เที่ยงพระเจ้าข้า.
ภ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา
เพราะไม่ถือมั่นสิ่งนั้น จะพึงเกิดทิฏฐิขึ้นอย่างนี้ว่า อัตตาที่มีรูป หลังจาก
ตายไปแล้ว ย่อมไม่สลายไป ใช่ไหม ?
ภิ. ไม่พึงเกิดขึ้นอย่างนั้นเลย พระเจ้าข้า.
ภ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ด้วยประการฉะนี้แล เมื่อทุกข์มีอยู่
เพราะถือมั่นทุกข์ เพราะยึดมั่นทุกข์ จึงเกิดทิฏฐิขึ้นอย่างนี้ว่า อัตตาที่มีรูป
หลังจากตายไปแล้ว ย่อมไม่สลายไป เวทนา ฯลฯ สัญญา ฯลฯ สังขาร
ฯลฯ วิญญาณเที่ยงหรือไม่เที่ยง ?
ภิ. ไม่เที่ยงพระเจ้าข้า.
ภ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา
เพราะไม่ถือมั่นสิ่งนั้น จะพึงเกิดทิฏฐิขึ้นอย่างนี้ว่า อัตตาที่มีรูปหลังจาก
ตายไปแล้ว ย่อมไม่สลายไป ใช่ไหม ?
ภิ. ไม่พึงเกิดขึ้นอย่างนั้นเลย พระเจ้าข้า.
ภ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ด้วยประการฉะนี้แล เมื่อทุกข์มีอยู่
เพราะถือมั่นทุกข์ เพราะยึดมั่นทุกข์ จึงเกิดทิฏฐิขึ้นอย่างนี้ว่า อัตตาที่มี
รูป หลังจากตายไปแล้ว ย่อมไม่สลายไป.
จบ รูปีอัตตสูตร

อรรถกถาทุติยคมนาทิวรรค

1

การถึงครั้งที่ 2 พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ด้วยอำนาจทุกข์
1. พระสูตรเป็น ทุติยเปยยาล

แม้ในข้อนั้น ไวยากรณะก็มี 18 ต่อจากไวยากรณะ 18 นั้นไป
ก็มี ไวยากรณะ 8 มีอาทิว่า อัตตามีรูป ดังนี้. การถึงนั้น รวมกับ
ไวยากรณะเหล่านั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสไว้ในไวยากรณะที่ 2
ดังนี้แล.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า รูปี ได้แก่ อารมณ์นั่นเอง คือ
ทิฏฐิที่ยึดถือ (อารมณ์) ว่า เป็นอัตตา.
จบ อรรถกถารูปีอัตตสูตร

20. อรูปีอัตตสูตร



ว่าด้วยอัตตาไม่มีรูป



[451] กรุงสาวัตถี. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถามว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่ออะไรมีอยู่ เพราะถือมั่นอะไร เพราะยึดมั่นอะไร
จึงเกิดทิฏฐิขึ้นอย่างนี้ว่า อัตตาที่ไม่มีรูป หลังจากตายไปแล้ว ย่อม
ไม่สลายไป ฯลฯ
จบ อรูปีอัตตสูตร

อรรถกถาอรูปีอัตตสูตรที่ 20



บทว่า อรูปี ได้แก่ ฌาน คือ ทิฏฐิที่ยึดถือฌานว่าเป็น อัตตา.
จบ อรรถกถาอรูปีอัตตสูตร