เมนู

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า ดูก่อนราธะ รูปเป็นขยธรรม
เวทนาเป็นขยธรรม สัญญาเป็นขยธรรม สังขารเป็นขยธรรม วิญญาณ
เป็นขยธรรม
ดูก่อนราธะ อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้ ฯลฯ
ย่อมรู้ชัดว่า กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี.
จบ ขยธรรมสูตร

10. วยธรรมสูตร



ว่าด้วยสภาพที่รู้เสื่อมสลาย



[386] กรุงสาวัตถี. ครั้งนั้นแล ท่านพระราธะนั่ง ณ ที่สมควร
ส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้ทูลถามคำนี้กะพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่
พระองค์ผู้เจริญ ที่เรียกว่า วยธรรม วยธรรม ดังนี้ อะไรหนอเป็น
วยธรรม ?
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า ดูก่อนราธะ รูปเป็นวยธรรม
เวทนาเป็นวยธรรม สัญญาเป็นวยธรรม สังขารเป็นวยธรรม วิญญาณ
เป็นวยธรรม
ดูก่อนราธะ อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้ ย่อม
เบื่อหน่ายทั้งในรูป ฯลฯ รู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว
กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี.
จบ วยธรรมสูตร

11. สมุทยธรรมสูตร



ว่าด้วยสภาพที่รู้เกิดขึ้น



[387] กรุงสาวัตถี. ครั้งนั้นแล ท่านพระราธะนั่ง ณ ที่สมควร
ส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้ทูลคำนี้กะพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์

ผู้เจริญ ที่เรียกว่า สมุทยธรรม สมุทยธรรม ดังนี้ อะไรหนอเป็น
สมุทยธรรม ?
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า ดูก่อนราธะ รูปเป็นสมุทยธรรม
เวทนาเป็นสมุทยธรรม สัญญาเป็นสนุทยธรรม สังขารเป็นสมุทยธรรม
วิญญาณเป็นสมุทยธรรม
ดูก่อนราธะ อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เห็นอยู่
อย่างนี้ ย่อมเบื่อหน่ายทั้งในรูป ฯลฯ รู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์
อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี.
จบ สมุทยธรรมสูตร

12. นิโรธธรรมสูตร



ว่าด้วยสภาพที่รู้จักดับ



[388] กรุงสาวัตถี. ครั้งนั้นแล ท่านพระราธะนั่ง ณ ที่สมควร
ส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้ทูลคำนี้กะพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์
ผู้เจริญ ที่เรียกว่า นิโรธธรรม นิโรธธรรม ดังนี้ อะไรหนอเป็น
นิโรธธรรม ?
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า ดูก่อนราธะ รูปเป็นนิโรธธรรม
เวทนาเป็นนิโรธธรรม สัญญาเป็นนิโรธธรรม สังขารเป็นนิโรธธรรม
วิญญาณเป็นนิโรธธรรม
ดูก่อนราธะ อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เห็นอยู่
อย่างนี้ ฯลฯ กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี.
จบ นิโรธธรรมสูตร
จบ ทุติยวรรคที่ 2