เมนู

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า ดูก่อนราธะ รูปเป็นอนิจจัง
เวทนาเป็นอนิจจัง สัญญาเป็นอนิจจัง สังขารเป็นอนิจจัง วิญญาณเป็น
อนิจจัง
ดูก่อนราธะ อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้ ฯลฯ
ย่อมรู้ชัดว่า กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี.
จบ อนิจจสูตร

4. อนิจจธรรมสูตร



ว่าด้วยสิ่งที่เป็นอนิจจธรรม



[380] กรุงสาวัตถี. ท่านพระราธะนั่ง ณ ที่สมควรข้างหนึ่ง
แล้ว ได้ทูลถามคำนี้กะพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
ที่เรียกว่า อนิจจธรรม อนิจจธรรม ดังนี้ อะไรหนอ เป็น อนิจจธรรม ?
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า รูปเป็นอนิจจธรรม เวทนาเป็น
อนิจจธรรม สัญญาเป็นอนิจจธรรม สังขารเป็นอนิจจธรรม วิญญาณเป็น
อนิจจธรรม
ดูก่อนราธะ อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้ ฯลฯ
ย่อมรู้ชัดว่า กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี.
จบ อนิจจธรรมสูตร

5. ทุกขสูตร



ว่าด้วยสิ่งที่เป็นทุกข์



[381] กรุงสาวัตถี. ท่านพระราธะนั่ง ณ ที่สมควรส่วน
ข้างหนึ่งแล้ว ได้ทูลถามคำนี้กะพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์
ผู้เจริญ ที่เรียกว่า ทุกข์ ทุกข์ ดังนี้ อะไรหนอเป็นทุกข์ ?

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า ดูก่อนราธะ รูปเป็นทุกข์ เวทนา
เป็นทุกข์ สัญญาเป็นทุกข์ สังขารเป็นทุกข์ วิญญาณเป็นทุกข์
ดูก่อนราธะ
อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้ ฯลฯ ย่อมรู้ชัดว่า กิจอื่นเพื่อ
ความเป็นอย่างนี้มิได้มี.
จบ ทุกขสูตร

6. ทุกขธรรมสูตร



ว่าด้วยสิ่งที่เป็นทุกขธรรม



[382] กรุงสาวัตถี. ท่านพระราธะนั่ง ณ ที่สมควรส่วน
ข้างหนึ่งแล้ว ได้ทูลถามคำนี้กะพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์
ผู้เจริญ ที่เรียกว่า ทุกขธรรม ทุกขธรรม ดังนี้ อะไรหนอเป็นทุกขธรรม ?
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า ดูก่อนราธะ รูปเป็นทุกขธรรม
เวทนาเป็นทุกขธรรม สัญญาเป็นทุกขธรรม สังขารเป็นทุกขธรรม
วิญญาณเป็นทุกขธรรม
ดูก่อนราธะ อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เห็นอยู่
อย่างนี้ ฯลฯ ย่อมรู้ชัดว่า กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี.
จบ ทุกขธรรมสูตร

7. อนัตตสูตร



ว่าด้วยสิ่งที่เป็นอนัตตา



[383] กรุงสาวัตถี. ท่านพระราธะนั่ง ณ ที่สมควรส่วน
ข้างหนึ่งแล้ว ได้ทูลถามคำนี้กะพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์
ผู้เจริญ ที่เรียกว่า อนัตตา อนัตตา ดังนี้ อะไรหนอเป็นอนัตตา ?