เมนู

เลย ดูก่อนราธะ ส่วนสมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง ย่อมรู้ชัด
เหตุเกิด ความดับ คุณ โทษ และอุบายเป็นเครื่องสลัดออกแห่ง
อุปาทานขันธ์ 5 ประการนี้ ตามความเป็นจริง สมณะหรือพราหมณ์
เหล่านั้น ย่อมได้รับยกย่องว่าเป็นสมณะในหมู่สมณะ และได้รับยกย่อง
ว่าเป็นพราหมณ์ในหมู่พราหมณ์ อนึ่ง ท่านเหล่านั้นย่อมทำให้แจ้งซึ่ง
ประโยชน์แห่งความเป็นสมณะ (อรหัตตผล) และประโยชน์แห่งความ
เป็นพราหมณ์ (อรหัตดผล) ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่ได้ด้วย.
จบ ทุติยสมณพราหมณสูตร

7. โสตาปันนสูตร



ว่าด้วยเหตุให้สำเร็จเป็นพระโสดาบัน



[373] กรุงสาวัตถี. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสกะท่าน
พระราธะว่า ดูก่อนราธะ อุปาทานขันธ์ 5 ประการนี้ 5 ประการ
เป็นไฉน ?
ได้แก่ อุปาทานขันธ์ คือ รูป ฯลฯ อุปาทานขันธ์ คือ วิญญาณ
ดูก่อนราธะ ในกาลใดแล อริยสาวกย่อมรู้ชัดเหตุเกิด ความดับ คุณ
โทษ และอุบายเป็นเครื่องสลัดออกแห่งอุปาทานขันธ์ 5 ประการนี้
ตามความเป็นจริง เมื่อนั้น อริยสาวกนี้ เราตถาคตกล่าวว่า เป็นโสดาบัน
ผู้มีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงที่จะตรัสรู้เป็นเบื้องหน้า.
จบ โสตาปันนสูตร

8. อรหันตสูตร



ว่าด้วยเหตุให้สำเร็จเป็นพระอรหันต์



[374] กรุงสาวัตถี. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสกะท่านพระราธะ
ว่า ดูก่อนราธะ อุปาทานขันธ์ 5 ประการนี้ 5 ประการเป็นไฉน ?
ได้แก่ อุปาทานขันธ์ คือ รูป ฯลฯ อุปาทานขันธ์ คือ วิญญาณ
ดูก่อนราธะ ในกาลใดแล ภิกษุรู้ชัดเหตุเกิด ความดับ คุณ โทษ และ
อุบายเป็นเครื่องสลัดออกแห่งอุปาทานขันธ์ 5 ประการนี้ ตามความเป็น
จริงแล้ว ย่อมเป็นผู้หลุดพ้น เมื่อไม่ถือมั่น ดูก่อนราธะ ภิกษุนี้เรา
กล่าวว่าเป็นอรหันตขีณาสพอยู่จบพรหมจรรย์ ทำกิจที่ควรทำเสร็จแล้ว
ปลงภาระลงแล้ว บรรลุประโยชน์ตนโดยลำดับแล้ว ผู้หมดสิ้นกิเลส
เครื่องประกอบสัตว์ไว้ในภพแล้ว ผู้หลุดพ้นแล้ว เพราะรู้โดยชอบ.
จบ อรหันตสูตร

9. ปฐมฉันทราคสูตร



ว่าด้วยการละฉันทราคะในขันธ์ 5



[375] กรุงสาวัตถี. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสกะท่าน
พระราธะว่า ดูก่อนราธะ ขอจงละความพอใจ ความกำหนัด ความเพลิน
ความทะยานอยากในรูปเสีย ด้วยอาการอย่างนี้ รูปนั้นจักเป็นอันเธอละ
ได้แล้ว ตัดรากขาดแล้ว ทำให้เป็นเหมือนตาลยอดด้วน ทำไม่ให้มี
ไม่ให้เกิดอีกต่อไปเป็นธรรมดา เธอจงละความพอใจ ความกำหนัด
ความเพลิน ความทะยานอยาก ในเวทนา... ในสัญญา... ในสังขาร...
ในวิญญาณเสีย ด้วยอาการอย่างนี้ วิญญาณนั้นจักเป็นธรรมชาติอัน