เมนู

7. อัตตานุทิฏฐิสูตร



ว่าด้วยเหตุแห่งอัตตานุทิฏฐิ



[358] กรุงสาวัตถี. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถามว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่ออะไรมีอยู่ เพราะอาศัยอะไร เพราะยึดมั่น
อะไร จึงเกิดอัตตานุทิฏฐิ ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์
ผู้เจริญ ธรรมของข้าพระองค์ทั้งหลาย มีพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นรากฐาน ฯลฯ
ภ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อรูปมีอยู่ เพราะอาศัยรูป เพราะ
ยึดมั่นรูป จึงเกิดมีอัตตานุทิฏฐิ เมื่อเวทนามีอยู่... เมื่อสัญญามีอยู่...
เมื่อสังขารมีอยู่... เมื่อวิญญาณมีอยู่ เพราะอาศัยวิญญาณ เพราะ
ยึดมั่นวิญญาณ จึงเกิดมีอัตตานุทิฏฐิ .
[359] ภ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจะสำคัญความ
ข้อนั้นเป็นไฉน รูปเที่ยงหรือไม่เที่ยง ?
ภิ. ไม่เที่ยง พระเจ้าข้า .
ภ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุขเล่า ?
ภิ. เป็นทุกข์ พระเจ้าข้า .
ภ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา
พึงเกิดมีอัตตานุทิฏฐิ เพราะไม่อาศัยสิ่งนั้นบ้างหรือ ?
ภิ. ไม่ใช่เช่นนั้น พระเจ้าข้า .
ภ. เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เที่ยงหรือไม่เที่ยง ?
ภิ. ไม่เที่ยง พระเจ้าข้า .
ภ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุขเล่า ?

ภิ. เป็นทุกข์ พระเจ้าข้า.
ภ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา
พึงเกิดมีอัตตานุทิฏฐิ เพราะไม่อาศัยสิ่งนั้นบ้างหรือ ?
ภิ. ไม่ใช่เช่นนั้น พระเจ้าข้า .
ภ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้
ฯลฯ กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี .
จบ อัตตานุทิฏฐิสูตรที่ 7

8. อภินิเวสสูตรที่ 1



ว่าด้วยเหตุแห่งความยึดมั่น



[360] กรุงสาวัตถี. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถามว่า ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย เมื่ออะไรมีอยู่ เพราะอาศัยอะไร เพราะยึดมั่นอะไร
จึงเกิดความพัวพันด้วยสังโยชน์และความยึดมั่น ภิกษุทั้งหลาย
กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ธรรมของข้าพระองค์ทั้งหลาย
มีพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นรากฐาน ฯลฯ
ภ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อรูปมีอยู่ เพราะอาศัยรูป เพราะ
ยึดมั่นรูป จึงเกิดความพัวพันด้วยสังโยชน์และความยึดมั่น เมื่อเวทนา
มีอยู่... เมื่อสัญญามีอยู่... เมื่อสังขารมีอยู่... เมื่อวิญญาณมีอยู่ เพราะ
อาศัยวิญญาณ เพราะยึดมั่นวิญญาณ จึงเกิดความพัวพันด้วยสังโยชน์
และความยึดมั่น
[361] ภ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจะสำคัญความ
ข้อนั้นเป็นไฉน รูปเที่ยงหรือไม่เที่ยง ?