เมนู

บุคคลพึงตามเห็นว่า นั่นของเรา เราเป็นนั่น นั่นเป็นตัวตนของเรา
เพราะไม่อาศัยสิ่งนั้นบ้างหรือ ?
ภิ. ไม่ใช่เช่นนั้น พระเจ้าข้า.
ภ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้
ฯลฯ กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี.
จบ เอตังมมสูตรที่ 2

อรรถกถาเอตังมมสูตรที่ 2



ในสูตรที่ 2

คำว่า กึ อภินิวิสฺส ได้แก่ เพราะยึดมั่นอะไร
อธิบายว่า กระทำให้เป็นปัจจัย.
จบ อรรถกถาเอตังมมสูตรที่ 2

3. เอโสอัตตสูตร



ว่าด้วยเหตุแห่งสัสสตทิฏฐิ



[350] กรุงสาวัตถี. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถามภิกษุ
ทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่ออะไรมีอยู่ เพราะอาศัยอะไร
เพราะยึดมั่นอะไร จึงเกิดมีทิฏฐิอย่างนี้ว่า. ตนก็อันนั้น โลกก็อันนั้น
เรานั้นละโลกนี้ไปแล้ว จักเป็นผู้เที่ยง ยั่งยืน มั่นคง มีความไม่เปลี่ยนแปลง
เป็นธรรมดา ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
ธรรมของข้าพระองค์ทั้งหลาย มีพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นรากฐาน ฯลฯ

ภ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อรูปมีอยู่ เพราะอาศัยรูป เพราะ
ยึดมั่นรูป จึงเกิดมีทิฏฐิอย่างนี้ว่า ตนก็อันนั้น โลกก็อันนั้น เรานั้น
ละโลกนี้ไปแล้ว จักเป็นผู้เที่ยง ยั่งยืน มั่นคง มีความไม่เปลี่ยนแปลง
เป็นธรรมดา เมื่อเวทนามีอยู่... เมื่อสัญญามีอยู่... เมื่อสังขารมีอยู่...
เมื่อวิญญาณมีอยู่ เพราะอาศัยวิญญาณ เพราะยึดมั่นวิญญาณ จึงเกิดมี
ทิฏฐิอย่างนี้ว่า ตนก็อันนั้น โลกก็อันนั้น เรานั้นละโลกนี้ไปแล้ว จักเป็น
ผู้เที่ยง ยั่งยืน มั่นคง มีความไม่เปลี่ยนแปลงเป็นธรรมดา.
[351] ภ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจะสำคัญความ
ข้อนั้นเป็นไฉน รูปเที่ยงหรือไม่เที่ยง ?
ภิ. ไม่เที่ยง พระเจ้าข้า.
ภ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุขเล่า ?
ภิ. เป็นทุกข์ พระเจ้าข้า.
ภ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา
พึงเกิดมีทิฏฐิอย่างนี้ว่า ตนก็อันนั้น โลกก็อันนั้น เรานั้นละโลกนี้ไปแล้ว
จักเป็นผู้เที่ยง ยั่งยืน มั่นคง มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา เพราะไม่
อาศัยสิ่งนั้นบ้างหรือ ?
ภิ. ไม่ใช่เช่นนั้น พระเจ้าข้า .
ภ. เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เที่ยงหรือไม่เที่ยง ?
ภิ. ไม่เที่ยง พระเจ้าข้า .
ภ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุขเล่า ?
ภิ. เป็นทุกข์ พระเจ้าข้า .
ภ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา

พึงเกิดมีทิฏฐิอย่างนี้ว่า ตนก็อันนั้น โลกก็อันนั้น เรานั้นละโลกนี้ไปแล้ว
จักเป็นผู้เที่ยง ยั่งยืน มั่นคง มีความไม่เปลี่ยนแปลงเป็นธรรมดา
เพราะไม่อาศัยสิ่งนั้นบ้างหรือ ?
ภิ. ไม่ใช่เช่นนั้น พระเจ้าข้า.
ภ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้
ฯลฯ กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี.
จบ เอโสอัตตสูตรที่ 3

อรรถกถาเอโสอัตตสูตรที่ 3



ในสูตรที่ 3 เป็นต้น คำว่า ทิฏฺฐิ เป็นต้น พระผู้มีพระภาคเจ้า
ตรัสด้วยอัธยาศัยของบุคคล.
จบ อรรถกถาเอโสอัตตสูตรที่ 3

4. โนจเมสิยาสูตร

1

ว่าด้วยเหตุแห่งนัตถิกทิฏฐิ



[352] กรุงสาวัตถี. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถามว่า ดูก่อน-
ภิกษุทั้งหลาย เมื่ออะไรมีอยู่ เพราะอาศัยอะไร เพราะยึดมั่นอะไร
จึงเกิดมีทิฏฐิอย่างนี้ว่า เราไม่พึงมี และบริขารของเราไม่พึงมี
เราจักไม่มี บริขารของเราจักไม่มี ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า
1. สูตรที่ 4-9 ไม่มีอรรถกถาแก้