เมนู

7. สมุทยธรรมสูตรที่ 2



ว่าด้วยความหมายของวิชชา



[327] เหตุเกิด (ของพระสูตร) ก็เป็นเช่นนั้นแล. ท่าน
พระมหาโกฏฐิตะนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง แล้วได้ถามท่านพระสารีบุตร
ว่า ดูก่อนท่านพระสารีบุตร ที่เรียกว่า วิชชา วิชชา ดังนี้ วิชชาเป็นไฉน
หนอแล และบุคคลเป็นผู้ประกอบด้วยวิชชา ด้วยเหตุเพียงเท่าไร ?
ท่านพระสารีบุตรตอบว่า ดูก่อนท่านผู้มีอายุ อริยสาวกผู้ได้
สดับแล้วในพระธรรมวินัยนี้ ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงซึ่งความเกิดขึ้น
ความดับไป คุณ โทษ และอุบายเครื่องสลัดออกแห่งรูป ย่อมรู้ชัด
ตามความเป็นจริงซึ่งความเกิดขึ้น ความดับไป คุณ โทษ และอุบาย
เป็นเครื่องสลัดออกแห่งเวทนา... แห่งสัญญา... แห่งสังขาร... แห่งวิญญาณ
ดูก่อนท่านผู้มีอายุ นี้เรียกว่าวิชชา และบุคคลเป็นผู้ประกอบด้วยวิชชา
ด้วยเหตุเพียงเท่านี้แล.
จบ สมุทยธรรมสูตรที่ 2

8. โกฏฐิตสูตรที่ 1



ว่าด้วยความหมายของอวิชชา และวิชชา



[328] สมัยหนึ่ง ท่านพระสารีบุตรและท่านมหาโกฏฐิตะ
อยู่ ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน กรุงพาราณสี ครั้งนั้นแล ท่านพระสารีบุตร
ออกจากที่พักในเวลาเย็น ได้เข้าไปหาท่านพระมหาโกฏฐิตะถึงที่อยู่
ฯลฯ แล้วได้ถามท่านพระมหาโกฏฐิตะว่า ดูก่อนท่านโกฏฐิตะ ที่เรียกว่า
อวิชชา อวิชชา ดังนี้ อวิชชาเป็นไฉนหนอแล. และบุคคลเป็นผู้ประกอบ
ด้วยอวิชชา ด้วยเหตุเพียงเท่าไร ?