เมนู

ไม่ใช่ของตน พึงใส่ใจว่าทรุดโทรม เพราะหมายความว่า ย่อยยับ
พึงใส่ใจว่าว่าง เพราะหมายความว่า ว่างจากสัตว์ พึงใส่ใจว่า เป็นอนัตตา
เพราะไม่มีอัตตา.
ในที่นี้พึงทราบอธิบายเพิ่มเติมอย่างนี้ว่า พระผู้มีพระภาคเจ้า
ตรัสถึงการใส่ใจว่าไม่เที่ยง ด้วยสองบทว่า อนิจฺจโต ปิโลกโต (ไม่เที่ยง
แตกสลาย) ตรัสถึงการใส่ใจว่า เป็นอนัตตา ด้วยสองบทว่า สุญฺญโต
อนตฺตโต
(ว่าง, เป็นอนัตตา) ตรัสถึงการใส่ใจว่าเป็นทุกข์ ด้วยบทที่เหลือ.
บทที่เหลือในพระสูตรนี้ มีความหมายง่ายแล.
จบ อรรถกถาสีลสูตรที่ 10

1. สุตวาสูตร



ว่าด้วยธรรมที่ควรใส่ใจโดยแยบคาย



[315] สมัยหนึ่ง ท่านพระสารีบุตร และท่านพระมหาโกฏฐิตะ
อยู่ ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน กรุงพาราณสี ครั้งนั้นแล ท่านพระมหา-
โกฏฐิตะออกจากที่พักในเวลาเย็น เข้าไปหาท่านพระสารีบุตรถึงที่อยู่ ฯลฯ
ได้ถามว่า ท่านพระสารีบุตร ภิกษุผู้ได้สดับแล้ว ควรกระทำธรรม
เหล่าไหนไว้ใจโดยแยบคาย ?
ท่านพระสารีบุตรตอบว่า ท่านโกฏฐิตะ ภิกษุผู้ได้สดับแล้ว
ควรกระทำอุปาทานขันธ์ 5 ไว้ในใจโดยแยบคาย โดยความเป็นของ
ไม่เที่ยง ฯลฯ โดยเป็นอนัตตา อุปาทานขันธ์ 5 เป็นไฉน ?
อุปาทานขันธ์คือรูป ฯลฯ อุปาทานขันธ์คือวิญญาณ ท่านโกฏฐิตะ
ภิกษุผู้ได้สดับแล้ว ควรกระทำอุปาทานขันธ์ 5 เหล่านี้ไว้ในใจ