เมนู

ในบทว่า อวีตราคสฺส พึงทราบอรรถโดยตัณหานั่นเอง เพราะ
ฉะนั้นตัณหาแล ท่านเรียกว่า ราคะ เพราะกำหนัด ว่าฉันทะ เพราะ
พอใจ ว่า เปมะ เพราะอรรถว่าประพฤติรักใคร่ ว่าปิปาสาระหาย
เพราะอรรถว่าประสงค์จะดื่ม ว่าปริฬาหะรุ่มร้อน เพราะอรรถว่า
ตามเผา. ถามว่า เพราะเหตุไร ท่านจึงเริ่มคำเป็นต้นว่า อกุสเล จาวุโส
ธมฺเม
แก้ว่า เพื่อแสดงโทษของผู้ไม่ปราศจากราคะและอานิสงส์ของ
ผู้ปราศจากราคะในขันธ์ 5. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อวิฆาโต ได้แก่
ผู้หมดทุกข์แล้ว. บทว่า อนุปายาโส ได้แก่ ผู้หมดความเดือดร้อน.
บทว่า อปริฬาโห ได้แก่ผู้ไม่มีความรุ่มร้อน พึงทราบความทุกบทดังว่ามานี้.
จบ อรรถกถาเทวทหสูตรที่ 2

3. หลิททิกานิสูตรที่ 1



ว่าด้วยลักษณะมุนี



[11] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ :-
สมัยหนึ่ง ท่านพระมหากัจจานะอยู่ ณ ภูเขาชันข้างหนึ่ง ใกล้
กุรรฆรนคร แคว้นอวันตี ครั้งนั้นแล คฤหบดีชื่อว่าหลิททิกานิเข้าไปหา
ท่านพระมหากัจจานะถึงที่อยู่ อภิวาทแล้ว นั่งอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
แล้วได้กล่าวกะท่านพระมหากัจจานะว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ พระผู้มี-
พระภาคเจ้า
ตรัสพระภาษิตนี้ในมาคัณฑิยปัญหา อันมีในอัฏฐกวรรคว่า