เมนู

อย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นอดีต อนาคต ปัจจุบัน เป็นภายในหรือภายนอก
หยาบหรือละเอียด เลวหรือประณีต อยู่ในที่ไกลหรือใกล้ วิญญาณ
ทั้งหมดนั่นไม่ใช่ของเรา เราไม่เป็นนั่น นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา.
ดูก่อนโสณะ อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้ ย่อม
เบื่อหน่ายแม้ในรูป แม้ในเวทนา แม้ในสัญญา แม้ในสังขาร แม้ใน
วิญญาณ เมื่อเบื่อหน่ายย่อมคลายกำหนัด เพราะคลายกำหนัด จิตย่อม
หลุดพ้น เมื่อจิตหลุดพ้นแล้ว ก็มีญาณหยั่งรู้ว่า หลุดพ้นแล้ว ย่อมทราบ
ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำทำเสร็จแล้ว
กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี.
จบ โสณสูตรที่ 7

8. โสณสูตรที่ 2



ว่าด้วยผู้ควรยกย่องและไม่ควรยกย่องเป็นสมณพราหมณ์



[101] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ :-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเวฬุวัน
กลันทกนิวาปสถาน กรุงราชคฤห์
ครั้งนั้นแล คฤหบดีบุตรชื่อโสณะ
เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า
แล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสกะ
คฤหบดีบุตรชื่อโสณะว่า ดูก่อนโสณะ ก็สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด
เหล่าหนึ่ง ไม่ทราบชัดรูป ไม่ทราบชัดเหตุเกิดแห่งรูป ไม่ทราบชัด
ความดับแห่งรูป ไม่ทราบชัดข้อปฏิบัติให้ถึงความดับแห่งรูป ไม่ทราบ
ชัดเวทนา... ไม่ทราบชัดสัญญา... ไม่ทราบชัดสังขาร... ไม่ทราบชัด
วิญญาณ ไม่ทราบชัดเหตุเกิดแห่งวิญญาณ ไม่ทราบชัดความดับแห่ง

วิญญาณ ไม่ทราบชัดข้อปฏิบัติให้ถึงความดับแห่งวิญญาณ ดูก่อน
โสณะ สมณะหรือพราหมณ์เหล่านี้ เราไม่ยกย่องว่าเป็นสมณะในหมู่
สมณะ หรือว่าเป็นพราหมณ์ในหมู่พราหมณ์ อนึ่ง ท่านเหล่านั้นหาทำ
ให้แจ้งซึ่งประโยชน์แห่งความเป็นสมณะ หรือประโยชน์แห่งความเป็น
พราหมณ์ ด้วยปัญญาอันรู้ยิ่งเองในปัจจุบันเข้าถึงอยู่ไม่.
[102] ดูก่อนโสณะ ส่วนสมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง
ทราบชัดรูป ทราบชัดเหตุเกิดแห่งรูป ทราบชัดความดับแห่งรูป
ทราบชัดข้อปฏิบัติให้ถึงความดับแห่งรูป ทราบชัดเวทนา... ทราบชัด
สัญญา... ทราบชัดสังขาร... ทราบชัดวิญญาณ ทราบชัดเหตุเกิดแห่ง
วิญญาณ ทราบชัดความดับแห่งวิญญาณ ทราบชัดข้อปฏิบัติให้ถึง
ความดับแห่งวิญญาณ ดูก่อนโสณะ สมณะหรือพราหมณ์เหล่านี้แล
เรายกย่องว่าเป็นสมณะในหมู่สมณะ และว่าเป็นพราหมณ์ในหมู่
พราหมณ์ อนึ่ง ท่านเหล่านั้นย่อมทำให้แจ้งซึ่งประโยชน์แห่งความเป็น
สมณะและประโยชน์แห่งความเป็นพราหมณ์ ด้วยปัญญาอันรู้ยิ่งเองใน
ปัจจุบันเข้าถึงอยู่
จบ โสณสูตรที่ 2

อรรถกถาโสณสูตรที่ 1-2



ในโสณสูตรที่ 1 มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
บทว่า เสยฺโยหมสฺมิ ความว่า เราได้เป็นผู้ประเสริฐสูงสุด.
บทว่า กิมญฺญตฺร ยถาภูตสฺส อทสฺสนา ความว่า อะไรจะพึงเป็นอย่างอื่น
นอกจากการไม่เห็นธรรมตามความเป็นจริง. อธิบายว่า การไม่รู้การ
ไม่เห็นนั่นแลจะพึงมี. บัดนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าเมื่อจะเริ่มแสดงประเภท