เมนู

ลำดับนั้น พวกคนกล่าวกะท่านว่า ท่านจักไม่ขอขมาโทษตาม
ความชอบใจของตนหรือ ดังนี้แล้วช่วยกันจักมือและเท้าแล้วให้นอนหมอบ
แทบเท้า แล้วกล่าวว่า ขอจงขมาโทษเถิด. ดาบสนั้นนอนเงียบเสียง.
คนเหล่านั้นจึงกล่าวย้ำกะดาบสนั้นว่า จงขอขมาโทษเสีย. ลำดับนั้น ดาบส
จึงกล่าวว่า โปรดยกโทษข้าเถิดอาจารย์. มหาบุรุษกล่าวว่า อันดับแรก
ข้าพเจ้าจักยกโทษให้ท่านแล้วปล่อยพระอาทิตย์ แต่เมื่อพระอาทิตย์ขึ้น
ศีรษะของท่านจักแตก 7 เสียง ดังนี้แล้ว จึงกล่าวว่า ท่านจงเอาก้อนดิน
เหนียว ขนาดเท่าศีรษะวางไว้บนกระหม่อมของดาบสนี้ แล้วให้ท่านยืน
แช่น้ำในแม่น้ำแค่คอ. พวกผู้คนได้กระทำเหมือนอย่างนั้น. ด้วยเหตุเพียง
เท่านี้ ไพร่พลของพระราชาทั่วแว่นแคว้นประชุมกัน. มหาบุรุษได้ปล่อย
พระอาทิตย์แล้ว. แสงพระอาทิตย์มากระทบก้อนดิน. ก้อนดินนั้นก็แตก
7 เสี่ยง. ในขณะนั้นนั่นเอง ดาบสนั้นก็ดำลงโผล่ขึ้นทางท่าหนึ่งแล้วก็
หนีไป. พระศาสดาทรงนำเรื่องนี้มาตรัสว่า บัดนี้ท่านได้บริภาษในสำนัก
ของภิกษุทั้งหลายก่อน. แม้ในกาลก่อนท่านอาศัยความโกรธนี้ จึงถูก
เนรเทศออกจากแว่นแคว้น ครั้นทรงสืบอนุสนธิ เมื่อจะโอวาทดาบสนั้น
จึงตรัสว่า ติสสะ ข้อนั้นไม่สมควรแก่เธอแล เป็นต้น.
จบอรรถกถาติสสสูตรที่ 9

10. เถรนามสูตร



ว่าด้วยเรื่องภิกษุรูปหนึ่งชื่อเถระ



[716] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเวฬุวัน