เมนู

6. ภัททิยสูตร



ว่าด้วยเรื่องพระลกุณฏกภัททิยะ



[703] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้ :-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม
ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ครั้งนั้นแล ท่านพระ-
ลกุณฏกภัททิยะไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ.
[704] พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ทอดพระเนตรเห็นท่านพระ-
ลกุณฏกภัททิยะมาแต่ที่ไกลเทียว แล้วตรัสกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย พวกเธอเห็นหรือไม่ ซึ่งภิกษุกำลังมาอยู่โน่น มีวรรณะไม่งาม
ไม่น่าดู เตี้ย เป็นที่ดูแคลนของภิกษุทั้งหลาย.
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า เห็นพระเจ้าข้า.
พ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั่นแล มีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก
อนึ่ง สมาบัติที่เธอไม่เคยเข้า เธอก็ได้โดยง่าย เธอกระทำให้แจ้งซึ่งที่สุด
แห่งพรหมจรรย์อันยอดเยี่ยม ซึ่งกุลบุตรทั้งหลายออกบวชเป็นบรรพชิต
โดยชอบต้องการนั้น ด้วยปัญญาอันยิ่งด้วยตนเองในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่.
[705] พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้สุคตศาสดา ครั้นได้ตรัสไวยา-
กรณภาษิตนี้แล้ว จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปนี้ว่า
สัตว์ทั้งหลาย จำพวกหงส์ นกกะเรียน นกยูง ช้าง
เนื้อฟาน ทั้งหมด ย่อมกลัวราชสีห์ ความเสมอกัน
ในกายไม่มี ฉันใด ในมนุษย์ทั้งหลายก็ฉันนั้น

เหมือนกัน ถ้าคนหนุ่มมีปัญญา เขาก็ย่อมใหญ่ใน
มนุษย์เหล่านั้น ไม่เหมือนคนพาล ซึ่งถือร่างกาย
เป็นใหญ่ ดังนี้.

จบภัททิยสูตรที่ 6

อรรถกถาภัททิยสูตรที่ 6



ในภัททิยสูตรที่ 6 มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า ทุพฺพณฺณํ ได้แก่มีผิวกายไม่งาม. บทว่า โอโกฏิมกํ
ได้แก่ เตี้ย. บทว่า ปริภูตรูปํ ได้แก่ ถูกดูแคลนเรื่องขนาด. ได้ยินว่า
พวกภิกษุฉัพพัคคีย์ปรามาสท่านลกุณฏกภัททิยะว่า ท่านภัททิยะ ท่าน
ภัททิยะ หยอดล้อแบบต่าง ๆ ฉุดมาบ้าง รั้นไปรอบ ๆ บ้าง ในที่นั้น ๆ
เพราะเหตุดังนี้นั้น ท่านจึงกล่าวว่า ปริภูตรูปํ ดังนี้.
ก็เพราะเหตุไร ท่านลกุณฏกภัททิยะจึงมีรูปอย่างนี้. เล่ากันมาว่า
ท่านลกุณฏกภัททิยะนี้ เคยเป็นพระราชาผู้ยิ่งใหญ่ผู้หนึ่ง พระองค์ทรง
รังเกียจพวกคนแก่และหญิงแก่ ๆ ถ้าพระองค์เห็นคนแก่ ๆ ให้เกล้ามวย
ผมของคนเหล่านั้น ให้ผูกรักแร้ แล้วให้เล่นตามชอบใจ แม้เห็นหญิงแก่ ๆ
ก็ทำพิเรน ๆ ตามปรารถนาแก่หญิงเหล่านั้น ให้เล่นตามชอบใจ โทษใหญ่
ย่อมเกิดขึ้นในสำนักแห่งบุตรและธิดาเป็นต้นของคนเหล่านั้น การกระทำ
ความชั่วของท่าน ได้กระทำให้เกิดโกลาหลเป็นอันเดียวตั้งแต่แผ่นดินจด
ถึงเทวโลก 6 ชั้น.
ลำดับนั้น ท้าวสักกะมีพระดำริว่า คนอันธพาลเบียดเบียนมหาชน
เราจักข่มเขา. ท้าวสักกะจึงแปลงเพศเป็นคนแก่ชาวบ้าน ยกตุ่มเต็มด้วย