เมนู

รวมกันที่ยอด. บทว่า กูฏสมุคฺฆาตา ความว่า เมื่อรื้อยอดเรือน.
บทว่า อวิชฺชาสมุคฺฆาตา ความว่า เพราะถอนอวิชชาได้ด้วยอรหัต-
มรรค. บทว่า อปฺปปตฺตา ได้แก่เป็นผู้ตั้งอยู่ในความไม่อยู่ปราศจากสติ.
จบอรรถกถากูฏาคารสูตรที่ 1

2. นขสิขสูตร



ว่าด้วยสัตว์ที่กลับมาเกิดเป็นมนุษย์มีน้อย



เหมือนฝุ่นติดปลายเล็บ



[663] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม
ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้า
ทรงช้อนฝุ่นเล็กน้อยไว้ที่ปลายพระนขาแล้วตรัสถามภิกษุทั้งหลาย
ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ฝุ่น
เล็กน้อยที่เราช้อนขึ้นไว้ที่ปลายเล็บนี้ กับมหาปฐพีนี้ อย่างไหนมากกว่ากัน.
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ มหาปฐพีนั่น
แหละมากกว่า ฝุ่นเล็กน้อยที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงช้อนขึ้นไว้ที่ปลาย
พระนขานี้มีประมาณน้อย ย่อมไม่ถึงแม้ซึ่งการนับ ย่อมไม่ถึงแม้ซึ่งการ
เทียบเคียง ย่อมไม่ถึงแม้ซึ่งส่วนแห่งเสี้ยว เพราะเทียบมหาปฐพีเข้าแล้ว
ฝุ่นที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงช้อนขึ้นไว้ที่ปลายพระนขามีประมาณเล็ก
น้อย.
[664] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัตว์กลับมาเกิดในหมู่มนุษย์มี
ประมาณน้อย สัตว์ไปเกิดในกำเนิดอื่นจากมนุษย์มีมากกว่ามากทีเดียว
ฉันนั้นเหมือนกัน เพราะเหตุดังนี้นั้น เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า

เราจักเป็นผู้ไม่ประมาท ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่าง
นี้นั่นแหละ.
จบนขสิขสูตรที่ 2

อรรถกถานขสิขสูตรที่ 2



ในนขสิขสูตรที่ 2 มีวินิฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า มนุสฺเสสุ ปจฺจาชายนฺติ มีอธิบายว่า เหล่าชนที่จุติจาก
มนุษยโลกแล้วเกิดในมนุษยโลกนั้นแล มีประมาณน้อย. บทว่า อญฺญตฺร
มนุสฺเสหิ
ความว่า เหล่าชนที่จุติจากมนุษยโลกแล้วไม่เกิดในมนุษยโลก
ไปเกิดเฉพาะในอบาย 4 มีมากกว่า เหมือนฝุ่นในมหาปฐพี. ก็ในพระ-
สูตรนี้ ท่านรวมเทวดากับมนุษย์ทั้งหลายเข้าด้วยกัน. เพราะฉะนั้น พึง
ทราบว่า ผู้เกิดในเทวโลกมีประมาณน้อย เหมือนผู้ที่เกิดในมนุษยโลก
ฉะนั้น.
จบอรรถกถานขสิขสูตรที่ 2

3. กุลสูตร



ว่าด้วยอานิสงส์เมตตาเจโตวิมุตติ



[665] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม
ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล พระผู้มี-
พระภาคเจ้า
ได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สกุลใดสกุลหนึ่งมีสตรีมาก
มีบุรุษน้อย สกุลเหล่านั้นย่อมถูกพวกโจรผู้ขโมยด้วยหม้อปล้นได้ง่าย แม้