เมนู

พระผู้มีพระภาคเจ้าจะทรงถือเอาเวลาที่เทศนาถูกยกขึ้นแสดง ก็ทรง
เปิดเผยเทศนาตรัสอย่างนั้น. ก็ในพระสูตรนี้มีสนธิ 3 อย่าง โดยย่อดังนี้
คือระหว่างวิญญาณกับนามรูปจัดเป็นสนธิอันหนึ่ง ระหว่างเวทนากับตัณหา
เป็นสนธิอันหนึ่ง ระหว่างภพกับชาติเป็นสนธิอันหนึ่ง.
จบอรรถกถาผัคคุนสูตรที่ 2

3. ปฐมสมณพราหมสูตร



ว่าด้วยเหตุแห่งความไม่เป็นสมณะและพราหมณ์



[38] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม
ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้
ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง
ไม่รู้จักชราและมรณะ ไม่รู้จักเหตุเกิดแห่งชราและมรณะ ไม่รู้จักความดับ
แห่งชราและมรณะ ไม่รู้จักปฏิปทาที่จะให้ถึงความดับแห่งชราและมรณะ
ไม่รู้จักชาติ. . .ไม่รู้จักภพ. . .ไม่รู้จักอุปาทาน. . . ไม่รู้จักตัณหา. . .ไม่รู้จัก
เวทนา. . . ไม่รู้จักผัสสะ. . .ไม่รู้จักสฬายตนะ. . . ไม่รู้จักนามรูป. . . ไม่รู้จัก
วิญญาณ. . . ไม่รู้จักสังขาร ไม่รู้จักเหตุเกิดแห่งสังขาร ไม่รู้จักความดับ
แห่งสังขาร ไม่รู้จักปฏิปทาที่จะให้ถึงความดับแห่งสังขาร สมณะหรือ
พราหมณ์เหล่านั้นจะสมมติว่าเป็นสมณะในหมู่สมณะ หรือสมมติว่าเป็น
พราหมณ์ในหมู่พราหมณ์หาได้ไม่ แลท่านเหล่านั้นมิได้กระทำให้แจ้ง
ซึ่งประโยชน์ของความเป็นสมณะ หรือประโยชน์ของความเป็นพราหมณ์
ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่.