เมนู

7. ปฐมอัสสัทธมูลกสูตร



ว่าด้วยสัตว์คบค้าสมาคมกันโดยธาตุเดียวกัน



[373] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม
ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้า
ตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย. . . แล้วได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
สัตว์ทั้งหลายย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกัน โดยธาตุเทียว คือสัตว์จำพวก
ที่ไม่มีศรัทธา ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่ไม่มีศรัทธา
สัตว์จำพวกที่ไม่มีหิริ ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่ไม่มี
หิริ สัตว์จำพวกที่ไม่มีโอตตัปปะ ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์
จำพวกที่ไม่มีโอตตัปปะ. สัตว์จำพวกที่มีสุตะน้อย ย่อมคบค้ากัน ย่อม
สมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่มีสุตะน้อย สัตว์จำพวกที่เกียจคร้าน ย่อมคบค้า
กัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่เกียจคร้าน สัตว์จำพวกที่มีสติหลงลืม
ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่มีสติหลงลืม สัตว์จำพวก
ที่มีปัญญาทราม ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่มีปัญญา
ทราม แม้ในอดีตกาล . . . แม้ในอนาคตกาล. . . แม้ในปัจจุบันกาล
สัตว์ทั้งหลายก็ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกัน โดยธาตุเที่ยว คือสัตว์
จำพวกที่ไม่มีศรัทธา ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่ไม่มี
ศรัทธา สัตว์จำพวกที่ไม่มีหิริ ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์
จำพวกที่ไม่มีหิริ สัตว์จำพวกที่ไม่มีโอตตัปปะ. ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคม
กันกับสัตว์จำพวกที่ไม่มีโอตตัปปะ สัตว์จำพวกที่มีสุตะน้อย ย่อมคบ
ค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่มีสุตะน้อย สัตว์จำพวกที่เกียจ-

คร้าน ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่เกียจคร้าน สัตว์
จำพวกที่มีสติหลงลืม ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่มี
สติหลงลืม สัตว์จำพวกที่มีปัญญาทราม ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกัน
กับสัตว์จำพวกที่มีปัญญาทราม.
[374] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลายย่อมคบค้ากัน ย่อม
สมาคมกัน โดยธาตุเทียว คือสัตว์จำพวกที่มีศรัทธา ย่อมคบค้ากัน ย่อม
สมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่มีศรัทธา สัตว์จำพวกที่มีหิริ ย่อมคบค้ากัน ย่อม
สมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่มีหิริ สัตว์จำพวกที่มีโอตตัปปะ ย่อมคบค้ากัน
ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่มีโอตตัปปะ สัตว์จำพวกที่มีสุตะมาก ย่อม
คบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่มีสุตะมาก สัตว์จำพวกที่ปรารภ
ความเพียร ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่ปรารภความ
เพียร สัตว์จำพวกที่มีสติมั่นคง ย่อมสมาคมกัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวก
ที่มีสติมั่นคง สัตว์จำพวกที่มีปัญญา ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์
จำพวกที่มีปัญญา แม้ในอดีตกาล. . . แม้ในอนาคต. . .แม้ในปัจจุบันกาล
สัตว์ทั้งหลายก็ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกัน โดยธาตุเทียว คือสัตว์จำพวก
ที่มีศรัทธา ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่มีศรัทธา
สัตว์จำพวกที่มีหิริ ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่มีหิริ
สัตว์จำพวกที่มีโอตตัปปะ ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวก
ที่มีโอตตัปปะ สัตว์จำพวกที่มีสุตะมาก ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกัน
กับสัตว์จำพวกที่มีสุตะมาก สัตว์จำพวกที่ปรารภความเพียร ย่อมคบค้ากัน
ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่ปรารภความเพียร สัตว์จำพวกที่มีสติ

มั่นคง ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่มีสติมั่นคง
สัตว์จำพวกที่มีปัญญา ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่มี
ปัญญา.
จบปฐมอัสสัทธมูลกสูตรที่ 7

อรรถกถาปฐมอัสสัทธมูลกสูตรที่ 7



พึงทราบวินิจฉัยในปฐมอัสสัทธมูลกสูตรที่ 7 ดังต่อไปนี้.
ในบทเป็นต้นว่า อสฺสทฺธา อสฺสทฺเธหิ ความว่า บุคคลไม่มี
โอชา ไม่มีรส เว้นขาดจากศรัทธา ในพระพุทธ พระธรรม หรือ
พระสงฆ์ อยู่ที่สมุทรฝั่งนี้ ก็เป็นอย่างเดียวกันชั่วนิรันดรกับบุคคลไม่มี
ศรัทธา ซึ่งอยู่ที่ฝั่งโน้นเพราะความเป็นผู้ไม่มีศรัทธานั้น. บุคคลไม่มีหิริ
คือไร้มรรยาท ก็เป็นเช่นเดียวกันกับบุคคลไม่มีหิริ. คนไม่มีโอตตัปปะ
คือไม่กลัวต่อการทำบาป ก็เป็นเช่นเดียวกันกับคนไม่มีโอตตัปปะ. คนมี
สุตะน้อย คือเว้นขาดจากสุตะ ก็เป็นเช่นเดียวกันกับคนมีสุตะน้อย. คน
เกียจคร้าน คือคนมีความเกียจคร้าน ก็เป็นเช่นเดียวกันกับคนเกียจคร้าน.
คนมีสติหลงลืม คือเช่นกันกาเก็บอาหารและสุนัขจิ้งจอกเก็บเนื้อ ก็เป็น
เช่นเดียวกันกับคนมีสติหลงลืม. คนมีปัญญาทราม คือชื่อว่าหมดปัญญา
เพราะไม่มีปัญญาที่จะกำหนดขันธ์เป็นต้น ก็เป็นเช่นเดียวกันกับคนมี
ปัญญาทราม. คนผู้ถึงพร้อมด้วยศรัทธา คือผู้ขวนขวายในกิจมีการไหว้
พระเจดีย์เป็นต้น ก็เป็นเช่นเดียวกันกับคนมีศรัทธา. คนมีหิริ คือคนมี
ความละอาย ก็เป็นเช่นเดียวกันกับคนมีหิริ. คนมีโอตตัปปะ คือกลัวบาป
ก็เป็นเช่นเดียวกันกับคนมีโอตตัปปะ. คนมีสุตะมาก คือทรงสุตะ ทรง