เมนู

ภิกษุทั้งหลาย เมื่อภิกษุเห็นโทษเนื่อง ๆ ในธรรมทั้งหลายอันเป็นปัจจัย
แห่งอุปาทานอยู่ ตัณหาย่อมดับ ฉันนั้นเหมือนกัน เพราะตัณหาดับ
อุปาทานจึงดับ ฯ ล ฯ ความดับแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการ
อย่างนี้.
จบทุติยมหารุกขสูตรที่ 6

อรรถกถาทุติยมหารุกขสูตรที่ 6



ในทุติยมหารุกขสูตรที่ 6 พระผู้มีพระภาคเจ้าเปรียบเทียบก่อน
แล้วตรัสเนื้อความในภายหลัง ความต่างกันมีเพียงเท่านี้.
จบอรรถกถาทุติยมหารุกขสูตรที่ 6

7. ตรุณรุกขสูตร



ว่าด้วยต้นไม้อ่อนกับภิกษุมีความพอใจในธรรม



[212] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม
ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้า
ตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมาว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อภิกษุเห็น
ความพอใจเนือง ๆ ในธรรมทั้งหลายอันเป็นปัจจัยแห่งสังโยชน์อยู่ ตัณหา
ย่อมเจริญ เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน ฯลฯ ความเกิดแห่ง
กองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้.
[213] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ต้นไม้อ่อนยืนต้นอยู่ บุรุษพึง
พรวนดินใส่ปุ๋ย รดน้ำเสมอ ๆ ก็เมื่อเป็นอย่างนี้ ต้นไม้อ่อนนั้น มีอาหาร
อย่างนั้น มีเชื้ออย่างนั้น พึงถึงความเจริญงอกงามไพบูลย์ แม้ฉันใด

ภิกษุทั้งหลาย เมื่อภิกษุเห็นความพอใจเนือง ๆ ในธรรมทั้งหลายอันเป็น
ปัจจัยแห่งสังโยชน์อยู่ ตัณหาย่อมเจริญ ฉันนั้นเหมือนกัน เพราะตัณหา
เป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน ฯ ล ฯ ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้
ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้.
[214] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อภิกษุเห็นโทษเนือง ๆ ในธรรม
ทั้งหลายอันเป็นปัจจัยแห่งสังโยชน์อยู่ ตัณหาย่อมดับ เพราะตัณหาดับ
อุปาทานจึงดับ ฯ ล ฯ ความดับแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วย
ประการอย่างนี้.
[215] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ต้นไม้อ่อนยืนต้นอยู่อย่างนั้น ทีนั้น
บุรุษเอาจอบและภาชนะ ฯ ล ฯ หรือลอยในแม่น้ำมีกระแสอันเชี่ยว ก็เมื่อ
เป็นอย่างนี้ต้นไม้อ่อนนั้น ถูกตัดรากขึ้นแล้ว ทำให้เป็นดังตาลยอดด้วน
ถึงความไม่มี ไม่เกิดอีกต่อไป แม้ฉันใด ภิกษุทั้งหลาย เมื่อภิกษุเห็น
โทษเนือง ๆ ในธรรมทั้งหลายอันเป็นปัจจัยแห่งสังโยชน์อยู่ ตัณหา
ย่อมดับ ฉันนั้นเหมือนกัน เพราะตัณหาดับ อุปาทานจึงดับ ฯ ล ฯ
ความดับแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนั้น.
จบตรุณรุกขสูตรที่ 7

อรรถกถาตรุณรุกขสูตรที่ 7



ในตรุณรุกขสูตรที่ 7 มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า ตรุโณ ได้แก่ ยังไม่เผล็ดผล. บทว่า ปลิสชฺเชยฺย แปลว่า
พึงชำระ. ข้อว่า "ปํสุํ ทเทยฺย ใส่ปุ๋ย." ได้แก่ เอาปุ๋ยที่แข็งและหยาบออก
ใส่ปุ๋ยที่หวานเจือปนด้วยโคมัยอ่อนและฝุ่นละเอียดลงไป. บทว่า วุฑฺฒึ