เมนู

พระเสขบุคคล จึงเป็นอันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้วด้วยปริยายนี้แล.
คำว่า "นิพฺพิทา" เป็นต้น พึงทราบว่า เป็นการกล่าวบอกเหตุทุก
อย่าง. บทว่า "อนุปาทา เพราะความไม่ยึดมั่น" ได้แก่พ้นจากอุปาทาน
คือความยึดมั่น 4 ประการ ไม่ถือเอาธรรมไร ๆ. ด้วยคำว่า "สาธุ สาธุ
ดีละ ๆ." นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทำการพยากรณ์ปัญหาของพระสารีบุตร
เถระให้รื่นเริง เมื่อจะทรงพยากรณ์เช่นนั้นแหละด้วยพระองค์เอง จึงตรัส
ซ้ำว่า "นี้คือขันธปัญจกที่เกิดแล้ว" ดังนี้เป็นต้น.
จบอรรถกถาภูตมิทสูตรที่ 1

2. กฬารขัตติยสูตร



ว่าด้วยโมลิยัคคุนภิกษุลาสิกขา



[104] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม
ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ครั้งนั้นแล กฬารขัตติยภิกษุ
เข้าไปหาท่านพระสารีบุตรถึงที่อยู่ แล้วได้ปราศรัยกับท่าน ครั้นผ่านการ
ปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง เมื่อนั่ง
เรียบร้อยแล้วได้กล่าวกะท่านพระสารีบุตรว่า ข้าแต่ท่านพระสารีบุตร
โมลิยผัคคุนภิกษุ
ได้ลาสิกขา เวียนมาทางฝ่ายต่ำเสียแล้ว.
ท่านพระสารีบุตรกล่าวว่า ท่านโมลิยผัคคุนะนั้นคงไม่ได้ความ
พอใจในพระธรรมวินัยนี้เป็นแน่.
ก. ถ้าเช่นนั้น ท่านพระสารีบุตรคงได้ความพอใจในพระธรรม
วินัยนี้กระมัง.
สา. ท่านผู้มีอายุ ผมไม่มีความสงสัยเลย.