เมนู

อรรถกถาวันทนสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในวันทนสูตรที่ 7 ต่อไปนี้ :-
บทว่า อุฏฺฐาหิ แปลว่า จงลุกขึ้น คือจงเพียรพยายาม. บทว่า
วิชิตสงฺคาม ความว่า ท้าวสักกะเรียกพระผู้มีพระภาคเจ้าอย่างนี้ เพราะ
พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงชำนะกิเลสมีราคะเป็นต้น และไพร่พลของมารประมาณ
12 โยชน์. บทว่า ปนฺนภาโร ได้แก่ มีภาระคือขันธ์ กิเลส อภิสังขาร
อัน ปลงลงแล้ว. บทว่า ปณฺณรสาย รตฺตึ คือกลางคืนขึ้น 15 ค่ำ.
จบอรรถกถาวันทนสูตรที่ 7

8. ปฐมสักกนมัสนสูตร



ท้าวสักกะทรงไหว้ผู้มีศีลธรรม



[928] สาวัตถีนิทาน.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว ท้าวสักกะจอมเทพตรัสกะ
มาตลีสังคาหกเทพบุตรว่า ดูก่อนสหายมาตลี ท่านจงเตรียมจัดรถม้าอาชาไนย
ซึ่งเทียมด้วยม้าพันตัว เราจะไปยังพื้นที่อุทยานเพื่อชมภูมิภาคอันงดงาม
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มาตลีสังคาหกเทพบุตรทูลรับพระดำรัสท้าวสักกะจอมเทพ
ว่า ขอเดชะ ขอความเจริญจงมีแด่พระองค์ ดังนี้แล้ว เตรียมจัดรถม้าอาชาไนย
ซึ่งเทียมด้วยม้าพันตัวเสร็จแล้ว กราบทูลแต่ท้าวสักกะจอมเทพว่า ข้าแต่
พระองค์ผู้นิรทุกข์ รถม้าอาชาไนยซึ่งเทียมด้วยม้าพันตัวสำหรับพระองค์เตรียม
จัดไว้เสร็จแล้ว ขอพระองค์ทรงทราบกาลอันควรในบัดนี้เถิด ดูก่อนภิกษุ

ทั้งหลาย ครั้งนั้นแล ได้ทราบว่า ท้าวสักกะจอมเทพขณะเสด็จลงจากเวชยันต-
ปราสาท ทรงประนมอัญชลีนมัสการทิศเป็นอันมาก.
[929] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้นแล มาตลีสังคาหกเทพบุตร
ได้ทูลถามท้าวสักกะจอมเทพด้วยคาถาว่า
พราหมณ์ทั้งหลายผู้บรรลุไตรวิชชา
กษัตริย์ทั้งหลาย ณ ภูมิภาคทั้งหมด ท้าว
มหาราชทั้งหลาย 4 และทวยเทพชาวไตรทศผู้
มียศ ย่อมนอบน้อมพระองค์ ข้าแต่ท้าว
สักกะ เมื่อเป็นเช่นนั้น พระองค์ทรง
นอบน้อมท่านผู้ควรบูชาคนใด ท่านผู้ควร
บูชาคนนั้นชื่อไรเล่า ขอเดชะ.

[930] ท้าวสักกะตรัสตอบว่า
พราหมณ์ทั้งหลายผู้บรรลุไตรวิชชา
กษัตริย์ทั้งหลาย ณ ภูมิภาคทั้งหมด ท้าว
มหาราชทั้ง 4 และทวยเทพชาวไตรทศผู้
มียศ นอบน้อมท่านผู้ใดซึ่งเป็นผู้สมบูรณ์
ด้วยศีล มีจิตตั้งมั่นตลอดกาลนาน ผู้บวช
แล้วโดยชอบ มีพรหมจรรย์เป็นเบื้องหน้า
คฤหัสถ์เหล่าใดเป็นผู้ทำบุญ มีศีล เป็น
อุบาสกเลี้ยงดูภรรยาโดยชอบธรรม ดูก่อน
มาตลี เรานอบน้อมคฤหัสห์เหล่านั้น.

[931] มาตลีเทพบุตรทูลว่า
ข้าแต่ท้าวสักกะ ได้ยินว่าพระองค์
ทรงนอบน้อมบุคคลเหล่าใด บุคคล
เหล่านั้นเป็นผู้ประเสริฐที่สุดในโลกเทียว
ข้าแต่ท้าววาสวะ พระองค์ทรงนอบน้อม
บุคคลเหล่าใด ถึงข้าพระองค์ก็ขอนอบน้อม
บุคคลเหล่านั้น.

[932] ท้าวมฆวาสุชัมบดีเทวราชผู้เป็น
ประมุขของเทวดาทั้งหลาย ครั้นตรัสดังนี้
แล้ว ทรงน้อมนมัสการทิศเป็นอันมาก
แล้วเสด็จขึ้นรถ.


อรรถกถาปฐมสักกนมัสสนสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในปฐมสักกนมัสสนสูตรที่ 8 ต่อไปนี้ :-
บทว่า ปุถุทฺทิสา ได้แก่ ทิศใหญ่ 4 และทิศน้อย 4. บทว่า
ภุมฺมา ได้แก่ ผู้อยู่บนพื้นดิน. บทว่า จิรรตฺตํ สนาหิเต ได้แก่ ผู้มีจิต
ตั้งมั่น แล้วด้วยอุปจาระและอัปปนา ตลอดราตรีนาน. บทว่า วนฺเท ได้แก่
ข้าพเจ้าขอไหว้. บทว่า พรหฺมจริยปรายเน อธิบายว่า อยู่ประพฤติ-
พรหมจรรย์ อันเป็นความประพฤติประเสริฐสุด เป็นต้นว่า นอนหนเดียว
ฉันหนเดียว ในที่สุดชีวิตตลอด 10 ปีบ้าง 20 ปีบ้าง ฯลฯ 60 ปีบ้าง. บทว่า
ปุญฺญกรา ได้แก่ ผู้ทำบุญมีอาทิอย่างนี้ว่า ถวายปัจจัย 4 บูชาด้วยดอกมะลิตูม