เมนู

เทวดาชั้นดาวดึงส์ กล่าวถึงนรชน
ผู้เป็นบุคคล เลี้ยงมารดาบิดามีปกติประ-
พฤติอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ในตระกูล เจรจา
อ่อนหวาน กล่าวคำสมานมิตรสหาย ละ-
คำส่อเสียด ประกอบในอุบายเป็นเครื่อง
กำจัดความตระหนี่ มีวาจาสัตย์ ครอบงำ
ความโกรธได้ นั้นแลว่า เป็นสัปบุรุษดังนี้
.

อรรถกถาปฐมเทวสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในปรมเทวสูตรที่ 1 แห่งทุติยวรรค ต่อไปดังนี้ :-
บทว่า วตฺตปทานิ ได้แก่ ส่วนแห่งวัตร. บทว่า สมตฺตานิ คือ
บริบูรณ์แล้ว. บทว่า สมาทินฺนานิ คือถือเอาแล้ว. บทว่า กุเล เชฏฺฐา-
ปจายี
ความว่า กระทำความยำเกรงผู้เป็นใหญ่ในตระกูลเป็นต้นว่า ปู่ ย่า อา
น้า ลุง ป้า. บทว่า สณฺหวาโจ ได้แก่ มีวาจาน่ารักอ่อนหวาน. บทว่า
มุตฺตาจาโค ได้แก่ เสียสละ. บทว่า ปยตปาณี ได้แก่ ล้างมือเพื่อให้ไทย
ธรรม. บทว่า โวสฺสคฺครโต ได้แก่ ยินดีในการสละ. บทว่า ยาจโยโค
ได้แก่ เป็นผู้ควรที่คนอื่นจะพึงขอ หรือว่า ผู้ประกอบด้วยการบูชานั่นแล ชื่อว่า
ยาจโยโค. บทว่า ทานสํวิภาครโต ได้แก่ ยินดีแล้วในการให้และการแจก.
จบ อรรถกถาปฐมเทวสูตรที่ 1

2. ทุติยเทวสูตร



ว่าด้วยวัตรบท 7



[908] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน
อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี ในกาลครั้งนั้นแล ฯลฯ
[909] พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้ง
หลาย ท้าวสักกะจอมเทพเมื่อยังเป็นมนุษย์อยู่ในกาลก่อน เป็นมาณพชื่อว่ามฆะ
เพราะเหตุนั้น จึงเรียกว่า ท้าวมฆวา ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท้าวสักกะจอมเทพ
เมื่อยังเป็นมนุษย์อยู่ในกาลก่อนได้ให้ทานมาก่อน เพราะเหตุนั้น จึงเรียกว่า
ท้าวปุรินททะ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท้าวสักกะจอมเทพเมื่อยังเป็นมนุษย์อยู่ใน
กาลก่อนได้ให้ทานโดยเคารพ เพราะเหตุนั้น จึงเรียกว่า ท้าวสักกะ ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย ท้าวสักกะจอมเทพเมื่อยังเป็นอยู่ในกาลก่อน ได้ให้ที่พักอาศัย
เพราะเหตุนั้น จึงเรียกว่า ท้าววาสวะ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท้าวสักกะจอมเทพ
ย่อมทรงคิดเนื้อความได้ตั้งพันโดยครู่เดียว เพราะเหตุนั้น จึงเรียกว่า ท้าว-
สหัสนัยน์ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท้าวสักกะจอมเทพทรงมีนางอสุรกัญญานามว่า
สุชาเป็นปชาบดี เพราะเหตุนั้น จึงเรียกว่า ท้าวสุชัมบดี ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ท้าวสักกะจอมเทพเสียราชสมบัติเป็นอิสราธิบดีของทวยเทพชั้นดาวดึงส์ เพราะ
เหตุนั้น จึงเรียกว่า เทวานมินทะ.
[910] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท้าวสักกะจอมเทพเมื่อยังเป็นมนุษย์อยู่
ในกาลก่อน ได้สมาทานวัตรบท 7 ประการบริบูรณ์ เพราะเป็นผู้สมาทาน
วัตรบท 7 ประการบริบูรณ์ จึงได้ถึงความเป็นท้าวสักกะ วัตรบท 7 ประการ
เป็นไฉน คือเราพึงเลี้ยงมารดาบิดาจนตลอดชีวิต 1 ฯลฯ ถ้าแม้ความโกรธพึง