เมนู

[894] ท้าวสักกะจอมเทวดาตรัสว่า
สรรพสัตว์ย่อมเกิดความต้องการใน
สิ่งนั้น ๆ ตามควร ส่วนการบริโภคของ
สรรพสัตว์ มีการปรุงประกอบเป็นอย่างยิ่ง
ประโยชน์ทั้งหลายงดงามอยู่ที่ความสำเร็จ
ประโยชน์ยิ่งกว่าขันติไม่มี.


อรรถกถาวิโรจนอสุรินทสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในวิโรจนอสุรินทสูตรที่ 8 ต่อไปนี้ :-
บทว่า อฏฺฐํสุ ได้แก่ ยืนดุจรูปคนเฝ้าประตู. บทว่า นิปฺปทา
เเปลว่า ความสำเร็จ. ท่านอธิบายว่า เป็นชายควรพยายามไปจนกว่าประโยชน์
จะสำเร็จทีเดียว. คาถาที่ 2 เป็นของท้าวสักกะ. ในบทเหล่านั้น บทว่า
ขนฺตฺยา ภิยฺโย ความว่า บรรดาประโยชน์ทั้งหลายงามอยู่ที่ความสำเร็จ
ไม่มีประโยชน์ยิ่งกว่าขันติ. บทว่า อตฺถชาตา ได้แก่ มีกิจเกิดแล้ว.
จริงอยู่ ขึ้นชื่อว่า สัตว์ ที่ไม่มีกิจเกิดแล้ว แม้กระทั่งสุนัขบ้านและสุนัขจิ้งจอก
เป็นต้น ย่อมไม่มี. แม้เพียงเดินไปข้างนี้ ข้างโน้น ก็เป็นกิจเหมือนกัน .
บทว่า สํโยคปรมาเตฺวว สมฺโภคา สพฺพปาณินํ แปลว่า การบริโภค
ของสัตว์ทั้งปวงมีการปรุงเป็นอย่างยิ่ง อธิบายว่า เพราะข้าวค้างคืนเป็นต้น
ไม่ควรบริโภค. แต่ข้าวเหล่านั้น อุ่นให้ร้อน กระจายออกปรุงด้วยเนยใส

น้ำผึ้งน้ำอ้อยเป็นต้น เป็นของควรบริโภค. ด้วยเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวว่า
สํโยคปรมาเตฺวว สมฺโภคา สพฺพปาณินํ ดังนี้ . บทว่า นิปฺผนฺนโสภิโน
อตฺถา
ความว่า ชื่อว่าประโยชน์เหล่านี้สำเร็จเเล้ว จึงงาม. คาถาที่ 4
ก็เป็นของท้าวสักกะอีก แม้ในคาถาที่ 4 นั้น พึงทราบความโดยนัยที่กล่าวแล้ว.
จบอรรถกถาวิดรจนอสุรินทสูตรที่ 8

9. อารัญญกสูตร



ว่าด้วยกลิ่นของผู้มีศีล



[895] สาวัตถีนิทาน.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว ฤาษีผู้มีศีลมีกัลยาณธรรมมาก
รูปด้วยกัน อาศัยอยู่ในกุฎีที่มุงบังด้วยใบไม้ ในราวป่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ครั้งนั้นแล ท้าวสักกะจอมเทวดากับท้าวเวปจิตติจอมอสูร เข้าไปหาฤาษีผู้มีศีล
มีกัลยาณธรรมเหล่านั้นถึงที่อยู่.
[896] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้นแล ท้าวเวปจิตติจอมอสูร
สวมรองเท้าหนาหลายชั้น สะพายดาบ มีผู้กั้นร่มให้ เข้าไปสู่อาศรมทางทวาร
อันเลิศ เข้าไปใกล้ฤาษีผู้มีศีลมีกัลยาณธรรมเหล่านั้นห่างไม่ถึงวา ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย ครั้งนั้นแลท้าวสักกะจอมเทวดาทรงถอดฉลองพระบาท ประทาน
พระขรรค์ ให้แก่ผู้อื่นรับสั่งให้ลดฉัตร เสด็จเข้าไปทางอาศรมโดยทางทวารเข้า
ประทับยืน ประคองอัญชลีนมัสการฤาษีผู้มีศีลมีกัลยาณธรรมเหล่านั้นอยู่ใต้ลม.
[897] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ลำดับนั้น แลฤาษีผู้มีศีลมีกัลยาณธรรม
เหล่านั้นได้กล่าวกะท้าวสักกะจอมเทวดาด้วยคาถาว่า