เมนู

[466] ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบว่า นี้เป็นมาร
ผู้มีบาปจึงตรัสกะมารผู้มีบาปด้วยพระคาถาว่า
รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ
และธรรมารมณ์ทั้งสิ้นนี้เป็นโลกามิสอัน
แรงกล้า โลกหมกมุ่นอยู่ในอารม เหล่านี้
ส่วนสาวกของพระพุทธเจ้ามีสติก้าวล่วง
โลกามิสนั้น และก้าวล่วงบ่วงมารแล้ว
รุ่งเรื่องอยู่ดุจพระอาทิตย์ ฉะนั้น.

ลำดับนั้น มารผู้มีบาปเป็นทุกข์ เสียใจว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรู้จัก
เรา พระสุคตทรงรู้จักเรา ดังนี้ จึงได้หายไปในที่นั้นนั่นเอง.

อรรถกถาอายตนสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในอายคนสูตรที่ 7 ต่อไป :-
บทว่า ผสฺสายตนานํ ได้แก่ อายตนะทั้งหลายแห่งผัสสะ ที่ชื่อว่า
เป็นไปในทวาร 6 เพราะอรรถว่า เป็นที่ประชุมโดยสัญชาติ. บทว่า ภยเภรว
สทฺทํ
ได้แก่ เสียงที่ให้เกิดความกลัว เช่นเสียงเมฆเสียงกลองเสียงฟ้าผ่า. บท
ว่า ปฐวี มญฺเญ อุทฺรียติ ได้แก่ ผืนแผ่นดินใหญ่ ได้เป็นประหนึ่งทำ
เสียงครืนครั่น. บทว่า เอตฺถ โลโก สมุจฺฉิโต ได้แก่โลกหมกมุ่นในอารมณ์
6 เหล่านี้. บทว่า มารเธยฺยํ ได้แก่ วัฏฏะที่เป็นไปในภูมิ 3 อันเป็นที่ตั้งแห่ง
มาร.
จบอรรถกถาอายตนสูตรที่ 7

8. ปิณฑิกสูตร



ว่าด้วยมารดลใจไม่ให้ใส่บิณฑบาต



[467] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ บ้านพราหมณ์
ในปัญจสาลคาม แคว้นมคธ.
ก็สมัยนั้นแล ที่บ้านพราหมณ์ ในปัญจสาลคาม มีนักขัตฤกษ์แจก
ของแก่พวกเด็ก ๆ ครั้นรุ่งเช้า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงครองแล้ว ทรงถือบาตร
และจีวรเสด็จเข้าไปสู่บ้านพราหมณ์ในปัญจสาลคามเพื่อบิณฑบาต.
ก็โดยสมัยนั้นแล พราหมณ์ผู้คฤหบดีชาวปัญจสาลคามถูกมารผู้มีบาป
เข้าดลใจ ด้วยประสงค์ว่า พระสมณโคดมอย่าได้บิณฑบาตเลย.
พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จเข้าสู่บ้านพราหมณ์ในปัญจสาลคามเพื่อ
บิณฑบาตด้วยบาตรเปล่าอย่างใด ก็เสด็จกลับมาด้วยบาตรเปล่าอย่างนั้น.
[468] ลำดับนั้น มารผู้มีบาปเข้าไปหาพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ
ครั้นแล้ว จึงกล่าวกะพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า สมณะ ท่านได้บิณฑบาตบ้างไหม.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า แน่ะมารผู้มีบาป ท่านได้กระทำให้เราไม่
ได้บิณฑบาตมิใช่หรือ.
มารผู้มีบาปกราบทูลว่า ถ้าอย่างนั้น ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าจงเสด็จ
เข้าไปสู่บ้านพราหมณ์ในปัญจสาลคาม เพื่อบิณฑบาตครั้งที่สองอีกเถิด พระ-
เจ้าข้า ข้าพระองค์จักการทำให้พระผู้มีพระภาคเจ้าได้บิณฑบาต.
[469] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
มารมาขัดขวางตถาคต ได้ประสบ
สิ่งมิใช่บุญแล้ว ดูก่อนมารผู้มีบาป ท่าน
เข้าใจว่า บาปย่อมไม่ให้ผลแก่เรา ฉะนั้น