เมนู

5. สานุสูตร



ว่าด้วยสามเณรถูกยักษ์สิง



[814] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ในพระวิหารเชตวัน
อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ในกรุงสาวัตถี.
สมัยนั้นแล บุตรของอุบาสิกาคนหนึ่งชื่อสานุ ถูกยักษ์เข้าสิง.
[815] ครั้งนั้นแล อุบาสิกานั้นได้ปริเวทนาการกล่าวคาถาเหล่านี้
ในเวลานั้นว่า
ฉันได้สดับต่อพระอรหันต์ทั้งหลาย
ว่า ชนเหล่าใดเข้าอยู่อุโบสถอันประกอบ
ด้วยองค์ 8 ประการด้วยดี ตลอดดิถีที่ 14
ที่ 15 และที่ 8 แห่งปักษ์ ทั้งตลอดปาริหา-
ริกปักษ์ ประพฤติพรหมจรรย์อยู่ ยักษ์ทั้ง
หลายย่อมไม่เล่นกับชนเหล่านั้น บัดนี้
ฉันเห็นในวันนี้ ยักษ์เล่นกับสามเณรสานุ.

[816] ยักษ์กล่าวว่า
ท่านได้สดับต่อพระอรหันต์ทั้งหลาย
ว่า ชนเหล่าใดเข้าอยู่อุโบสถอันประกอบ
ด้วยองค์ 8 ประการด้วยดี ตลอดดิถีที่ 14
ที่ 15 และที่ 8 แห่งปักษ์ ทั้งตลอดปาริ-
หาริกปักษ์ ประพฤติพรหมจรรย์อยู่ ยักษ์
ทั้งหลายย่อมไม่เล่นกับชนเหล่านั้น เป็น
การชอบ ท่านพึงบอกสานุผู้ฟื้นขึ้นแล้ว

ว่า ยักษ์สั่งคำนี้ไว้ว่า ท่านอย่าได้กระทำ
ธรรมอันลามกทั้งในที่แจ้งและที่ลับ ถ้า
ท่านจักกระทำกรรมอันลามกไซร้ ถึงท่าน
จะเหาะหนีไปก็ไม่พ้นจากทุกข์.

[817] สามเณรสานุฟื้นขึ้นแล้วกล่าวว่า
โยม ญาติ และมิตรทั้งหลายย่อม
ร้องไห้ถึงคนที่ตายแล้วหรือยังเป็นอยู่แต่
หายไป โยมยังเห็นฉันเป็นอยู่ ไฉนโยม
จึงร้องไห้ถึงฉัน.

[818] อุบาสิกากล่าวว่า
ลูกเอ๋ย ญาติและมิตรทั้งหลายย่อม
ร้องไห้ถึงคนที่ตายแล้วหรือยังเป็นอยู่แต่
หายไป แต่คนใดละกามทั้งหลายแล้วจะ
กลับมาในกามนี้อีก ลูกรัก ญาติและมิตร
ทั้งหลายย่อมร้องไห้ถึงคนนั้น เพราะเขา
เป็นอยู่ต่อไปอีกก็เหมือนตายแล้ว แน่พ่อ
เรายกท่านขึ้นจากเถ้ารึงที่ยังร้อนระอุแล้ว
ท่านอยากจะตลลงไปสู่เถ้ารึงอีก แน่พ่อ
เรายกท่านขึ้นจากเหวแล้ว ท่านอยากจะ
ตกลงไปสู่เหวอีก เราจะโพนทะนาแก่

ใครเล่าว่า ขอท่านจงช่วยกัน ขอความ
เจริญจงมีแก่ท่าน ประดุจสิ่งของที่ขนออก
แล้วจากเรือนที่ไฟไหม้ แก่ท่านอยากจะ
เผามันเสียอีก.


อรรถกถาสานุสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในสานุสูตรที่ 5 ต่อไปนี้ :-
บทว่า ยกฺเขน คหิโต โหติ ความว่า เล่ากันว่า บุตรนั้นเป็นบุตร
คนเดียวของอุบาสิกานั้น. ครั้งนั้น นางให้บุตรนั้นบรรพชาในเวลาเป็นหนุ่ม
แล. สานุสามเณรนั้น ตั้งแต่เวลาบรรพชาแล้ว มีศีลถึงพร้อมด้วยวัตร. สามเณร
ได้ทำวัตรแก่อาจารย์ อุปัชฌายะและพระอาคันตุกะเป็นต้น เดือนละแปดวัน
ลุกแต่เช้าเข้าไปตั้งน้ำไว้ ในโรงน้ำ กวาดโรงฟังธรรม ตามประทีป ประกาศ
ฟังธรรมด้วยเสียงไพเราะ. พวกภิกษุทราบกำลังของสามเณรนั้น จึงเชื้อเชิญ
ว่า พ่อเณร จงกล่าวบทสรภัญญะเถิด. สามเณรนั้น ไม่นำอะไรมาอ้างว่า ลม
เสียดแทงหัวใจของผม หรือโรคไอรบกวน ขึ้นธรรมาสน์ กล่าวบทสรภัญญะ
เหมือนยังแม่น้ำคงคาในอากาศให้ตกลงอยู่ฉะนั้น ลงมากล่าวว่า ขอส่วนบุญใน
สรภัญญะนี้ จงมีแก่มารดาบิดาของข้าพเจ้าเถิด. ส่วนมารดาบิดาของสามเณร
นั้นไม่รู้ว่าส่วนบุญสามเณรนั้นให้แล้ว. ก็มารดาของสามเณรในอัตภาพก่อน
นั้นเกิดเป็นนางยักษิณี นางมากับพวกเทวดาฟังธรรมแล้ว จึงกล่าวว่า
ลูก ข้าพเจ้าขออนุโมทนาส่วนบุญอันสามเณรให้แล้ว. ก็ธรรมดาพวกภิกษุผู้ถึง
พร้อมด้วยศีล ย่อมเป็นที่รักของโลกพร้อมทั้งเทวโลกด้วยประการฉะนี้. เหล่า