เมนู

7. นาคทัตตสูตร



ว่าด้วยเทวดาเตือนพระนาคทัตตะ



[778] สมัยหนึ่ง ท่านพระนาคทัตตะ พำนักอยู่ในแนวป่าแห่งหนึ่ง
ในแคว้นโกศล สมัยนั้นแล ท่านพระนาคทัตตะเข้าไปสู่บ้านแต่เช้าตรู่และ
กลับมาหลังเที่ยง.
[779] ครั้งนั้นแล เทวดาผู้สิงอยู่ในแนวป่านั้น มีความเอ็นดู
ใคร่ประโยชน์แก่ท่านพระนาคทัตตะ ใคร่จะให้ท่านสังเวช จึงเข้าไปหาถึงที่อยู่
ครั้นแล้วได้กล่าวกะท่านด้วยคาถาว่า
ท่านนาคทัตตะ ท่านเข้าไปแล้วใน
กาลและกลับมาในกลางวัน (ท่าน) มีปกติ
เที่ยวไปเกินเวลา คลุกคลีกับคฤหัสถ์
พลอยร่วมสุขร่วมทุกขกับเขา เราย่อมกลัว
พระนาคทัตตะ ผู้คะนองสิ้นดี และพัวพัน
ในสกุลทั้งหลาย ท่านอย่าไปสู่อำนาจของ
มัจจุราชผู้มีกำลัง ผู้กระทำซึ่งที่สุดเลย.

ลำดับนั้น ท่านพระนาคทัตตะ เป็นผู้อันเทวดานั้นให้สังเวชถึงซึ่ง
ความสลดใจแล้วแล.

อรรถกถานาคทัตตสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในนาคทัตตสูตรที่ 7 ต่อไปนี้ :-
บทว่า อติกาเลน ความว่า ภิกษุนาคทัตตะ นอนหลับตลอดคืน
ในเวลาใกล้รุ่ง เอาปลายไม้กวาดปัดกวาดเสียหน่อยหนึ่ง ล้างหน้าแล้ว เข้าไปขอ
ข้าวต้มแต่เช้า บทว่า อติทิวา ความว่า รับข้าวต้มไปโรงฉันดื่มแล้ว

นอนหลับในที่แห่งหนึ่ง คิดว่า เราจะได้อาหารอย่างดีในเวลาบริโภคของ
คนทั้งหลาย ดังนี้ เมื่อใกล้เที่ยง ก็ลุกขึ้นเอาเครื่องกรองน้ำตักน้ำล้างตาแล้ว
ไปหาอาหารฉันตามต้องการ ครั้นเลยเที่ยงแล้วก็หลีกไป. บทว่า ทิวา จ อาคนฺ
ตฺวา
ความว่า ชื่อว่า ผู้เข้าไปเกินเวลา พึงมาก่อนภิกษุทั้งหลายอื่น แต่ท่าน
มาสายเกินไป. บทว่า ภายามิ นาคทตฺตํ ได้แก่ เรากลัวท่านนาคทัตตะ
นั้น. บทว่า สุปคพฺภํ ได้แก่ คะนองด้วยดี. บทว่า กุเลสุ คือ ในตระกูล
ผู้อุปัฏฐากมีตระกูลกษัตริย์เป็นต้น.
จบอรรถกถานาคทัตตสูตรที่ 7

8. กุลฆรณีสูตร



ว่าด้วยเทวดาเตือนภิกษุรูปหนึ่งผู้คลุกคลี



[780] สมัยหนึ่ง ภิกษุรูปหนึ่ง พำนักอยู่ในแนวป่าแห่งหนึ่งใน
แคว้นโกศล สมัยนั้นแล ภิกษุนั้นไปอยู่คลุกคลีในสกุลเเห่งหนึ่งเกินเวลา.
[781] ครั้งนั้นแล เทวดาผู้สิงอยู่ในราวป่านั้น มีความเอ็นดูใคร่
ประโยชน์แก่ภิกษุนั้น ใคร่จะให้เธอสังเวช จึงเนรมิตเพศแห่งหญิงแม้เรือน
ในตระกูลนั้นเข้าไปหาถึงที่อยู่ ครั้นแล้วได้กล่าวกะภิกษุนั้นด้วยคาถาว่า
ชนทั้งหลาย ย่อมประชุมสนทนา
กันที่ฝั่งแม่น้ำ ในโรงที่พัก ในสภา และ
ในถนน ส่วนเราและท่านเป็นดังเรือ.

[782] แท้จริงเสียงที่เป็นข้าศึกมีมากอัน
ท่านผู้มีตบะ พึงอดทน ไม่พึงเก้อเขิน