เมนู

ไม่รู้เนื้อความแห่งธรรมนั้น. บทว่า อาโลเกติ ได้แก่ ยังนิ้วหัวแม่มือที่ลุก
โพลงอยู่ด้วยฤทธิ์ของปุถุชนของท่านให้สว่าง. บทว่า น ปสฺสติ ความว่า
ย่อมไม่เห็นเหตุการณ์นี้ว่า ในที่นี้ ไม่มีน้ำมัน ไม่มีไส้ ไม่มีตะเกียง แต่นิ้ว
หัวแม่มือนี้ลุกโพลงด้วยอานุภาพของพระเถระ. บทว่า ทส ปชฺโชเต คือ
ประทีป 10 ดวง ในนิ้วมือ 10 นิ้ว. บทว่า รูปานิ ได้แก่ รูปที่เป็นเหตุ.
บทว่า จกขุํ คือ ปัญญาจักษุ. บทว่า สํเวคมาปาทิ ความว่า ท่านพระ-
กัสสปโคตรคิดว่า จะมีประโยชน์อะไรแก่เรา กับพรานนี้ จึงประคองความ
เพียรดำเนินตามอรหัตมรรคที่เป็นธรรมวิเวก.
จบอรรถกถากัสสปโคตตสูตรที่ 3

4. สัมพหุลสูตร



ว่าด้วยเทวดาคร่ำครวญถึงภิกษุผู้จากไป



[768] สมัยหนึ่ง ภิกษุมากด้วยกัน พำนักอยู่ในแนวป่าแห่งหนึ่งใน
แคว้นโกศล ครั้งนั้นแล ภิกษุเหล่านั้นอยู่จำพรรษาถ้วนไตรมาสแล้วหลีกไปสู่
จาริก.
[769] ครั้งนั้น เทวดาผู้สิงอยู่ในแนวป่านั้น เมื่อไม่เห็นภิกษุ
เหล่านั้นก็คร่ำครวญถึง ได้กล่าวคาถานี้ในเวลานั้นว่า
ความสนิทสนมย่อมปรากฏประดุจ
ความไม่ยินดีเพราะเห็นภิกษุเป็นอันมากใน
อาสนะอันสงัด ท่านเหล่านั้น เป็นพหูสูต
มีถ้อยคำไพเราะ ท่านเป็นสาวกของพระ-
โคดม ไปที่ไหนกันเสียแล้ว.