เมนู

ผู้เดียวเท่านั้นก็หามิได้ ใคร ๆ จะเป็นกษัตริย์พราหมณ์แพศย์สูทรก็ตาม
คฤหัสถ์หรือบรรพชิตก็ตาม ไถอย่างนี้ ครั้นไถอย่างนี้แล้ว เขาทั้งหมด ย่อม
พ้นทุกข์ทั้งปวงโดยแท้แล.
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเทศนาแก่พราหมณ์ ยกพระนิพพานแสดงเป็น
เรื่องสุดท้าย จบลงด้วยอดคือพระอรหัต ด้วยประการฉะนี้. ต่อแต่นั้น
พราหมณ์ฟังพระธรรมเทศนาซึ่งมีเนื้อความลึกซึ้งแล้ว ทราบว่าคนบริโภคผล
แห่งการไถนาของเรา ย่อมจะหิวในวันรุ่งขึ้นเป็นแน่ แต่คนบริโภคผลแห่งการ
ไถที่เป็นอมตะนี้ ย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวง ดังนี้ มีความเลื่อมใส เมื่อจะแสดงทำ
อาการเลื่อมใส จึงกล่าวคำเป็นต้นว่า ภุญฺชตุ ภวํ โคตโม ดังนี้. คำทั้ง
หมดและคำนอกจากนั้น เราอธิบายเนื้อความไว้แล้วทั้งนั้นแล.
จบอรรถกถากสิสูตรที่ 1

2. อุทัยสูตร



ว่าด้วยติดในรส



[677] สาวัตถีนิทาน.
ครั้งนั้นเวลาเช้า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงนุ่งแล้ว ทรงถือบาตรและ
จีวร เสด็จเข้าไปยังที่อยู่ของอุทัยพราหมณ์. ลำดับนั้น อุทัยพราหมณ์เอาข้าว
ใส่บาตรถวายพระผู้มีพระภาคเจ้าจนเต็ม.
[678] แม้ครั้งที่ 2 ในเวลาเช้า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงนุ่งแล้ว
ทรงถือบาตรและจีวรเสด็จเข้าไปยังที่อยู่ของอุทัยพราหมณ์.

ลำดับนั้น อุทัยพราหมณ์เอาข้าวใส่บาตรถวายพระผู้มีพระภาคเจ้าจน
เต็ม.
[679] แม้ครั้งที่ 3 เวลาเช้า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงนุ่งแล้ว ทรง
ถือบาตรและจีวรเสด็จเข้าไปยังที่อยู่ของอุทัยพราหมณ์ แม้ในครั้งที่ 3 อุทัย
พราหมณ์เอาข้าวใส่บาตรถวายพระผู้มีพระภาคเจ้าเต็มแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มี
พระภาคเจ้าว่า พระสมณโคดมนี้ติดในรส (ติดใจในอาหาร) จึงเสด็จมาบ่อย ๆ.
[680] พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า
กสิกรย่อมหว่านพืชบ่อย ๆ ฝนย่อม
ตกบ่อย ๆ ชาวนาย่อมไถนาบ่อย ๆ แว่น
แคว้นย่อมบริบูรณ์ด้วยธัญชาติบ่อย ๆ ยา
จกย่อมขอบ่อย ๆ ทานบดีก็ให้บ่อย ๆ
ทานบดีให้บ่อย ๆ แล้ว ก็เข้าถึงสวรรค์
บ่อย ๆ ผู้ต้องการน้ำนมย่อมรีดนมบ่อย ๆ
ลูกโคย่อมเข้าหาแม่โคบ่อย ๆ บุคคล ย่อม
ลำบากและดินรนบ่อย ๆ คนเขลาย่อมเข้า
ถึงครรภ์บ่อยๆ สัตว์ย่อมเกิดและตายบ่อยๆ
บุคคลทั้งหลายย่อมนำซากศพไปป่าช้า
บ่อย ๆ ส่วนผู้มีปัญญาถึงจะเกิดบ่อย ๆ ก็
เพื่อได้มรรคแล้วไม่เกิดอีก ดังนี้.

[681] เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้แล้ว อุทัยพราหมณ์ได้
กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระโคดม ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้ง
นัก ข้าแต่พระโคดม ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก พระองค์ทรงประกาศ

ธรรมโดยอเนกปริยาย ดุจหงายภาชนะที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่คน
หลงทาง ส่องประทีปในที่มืด ด้วยหวังว่าคนมีจักษุจักมองเห็นรูปได้ ข้าแต่
ท่านพระโคดม ข้าพระองค์ขอถึงพระผู้มีพระภาคเจ้ากับพระธรรมและพระ
ภิกษุสงฆ์ว่าเป็นสรณะ ของพระองค์ทรงจำข้าพระองค์ว่า เป็นอุบาสกผู้ถึง
พระรัตนตรัยเป็นสรณะจนตลอดชีวิต ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป.

อรรถกถาอุทยสูตรที่ 2



ในอุทยสูตรที่ 2 มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
บทว่า โอทเนน ปูเรสิ ความว่า พราหมณ์เอาข้าวพร้อมด้วยแกง
และกับที่เขาจัดไว้เพื่อคนใส่บาตรจนเต็มถวาย. ได้ยินว่า พระผู้มีพระภาคเจ้า
ทรงตรวจดูโลกเวลาใกล้รุ่ง ทรงเห็นพราหมณ์นั้น ทรงปฏิบัติพระสรีระแต่
เช้าทีเดียว เสด็จเข้าพระคันธกุฎี ทรงปิดประตูแล้วประทับนั่ง ทรงเห็นโภชนะ
ที่เขายกเข้าไปไว้ใกล้พราหมณ์ ลำพังพระองค์เดียวเท่านั้นทรงคล้องบาตรที่
จะงอยบ่า เสด็จออกจากพระคันธกุฎี เสด็จถึงประตูพระนครทรงนำบาตรออก
แล้วเสด็จเข้าภายในพระนคร ทรงดำเนินไปตามลำดับ ประทับยืนอยู่ที่ซุ้มประตู
บ้านพราหมณ์. พราหมณ์เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วได้ถวายโภชนะที่เขาจัด
แจงมาเพื่อตน. คำว่า โอทเนน ปูเรสิ นี้ท่านกล่าวหมายเอาโภชนะนั้น . บทว่า
ทุติยมฺปิ ได้แก่แม้ในวันที่ 2. บทว่า ตติยมฺปิ ได้แก่แม้ในวันที่ 3 ได้ยิน
ว่า ในระหว่างที่พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จไปประตูเรือนพราหมณ์ติด ๆ กัน
ตลอด 3 วัน ไม่มีใคร ๆ ที่สามารถจะลุกขึ้นรับบาตรได้. มหาชนได้ยืนแลดู
อยู่เหมือนกัน.