เมนู

9. ปฐมอายุสูตร



ว่าด้วยอายุน้อย



[440] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ :-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับ อยู่ ณ พระวิหารเวฬุวัน อัน
เป็นสถานที่พระราชทานเหยื่อแก่กระแต กรุงราชคฤห์.
ณ ที่นั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย ดังนี้.
ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระดำรัสพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว.
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อายุของมนุษย์ทั้ง
หลายนี้น้อยนัก จำต้องไปสู่สัมปรายภพ ควรทำกุศล ควรประพฤติพรหมจรรย์
สัตว์ผู้เกิดมาแล้วจะไม่ตายไม่มี ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนที่เป็นอยู่นาน ย่อม
เป็นอยู่ได้เพียงร้อยปี หรือจะอยู่เกินไปได้บ้าง ก็มีน้อย.
[441] ครั้งนั้น มารผู้มีบาปได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้ว
ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยคาถาว่า
อายุของมนุษย์ทั้งหลายยืนยาว คนดี
ไม่ควรดูหมิ่นอายุนั้นเลย ควรประพฤติดุจ
เด็กอ่อนที่เอาแต่กินนม ฉะนั้น ไม่มีมัจจุ-
มาดอก.

[442] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบว่า นี่มารผู้มีบาป
จึงได้ตรัสกะมารผู้มีบาปด้วยพระคาถาว่า
อายุของมนุษย์ทั้งหลายน้อย คนดี
ควรดูหมิ่นอายุนั้นเสีย ควรประพฤติดุจคน

ที่ถูกไฟไหม้ศีรษะ ฉะนั้น การที่มัจจุไม่เมา
จะไม่มีเลย.

ครั้งนั้น มารผู้มีบาป เป็นทุกข์เสียใจว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรู้จัก
เรา พระสุคตทรงรู้จักเรา ดังนี้ จึงได้อันตรธานไปในที่นั้นแล.

อรรถกถาปฐมอายุสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในปฐมอายุสูตรที่ 9 ต่อไป :-
บทว่า อปฺปํ วา ภิยฺโรย ความว่า คนเมื่อเป็นอยู่เกินก็ไม่อาจเป็น
อยู่เกิน 100 ปี คือเป็นอยู่ 50 ปีบ้าง 60 ปีบ้าง. บทว่า อชฺฌภาสิ ความ
ว่า มารคิดว่า พระสมณโคดมกล่าวว่า อายุของเหล่ามนุษย์น้อย จำเราจัก
กล่าวว่า อายุนั้นยืนยาวจึงพูดข่มเพราะเป็นผู้ชอบขัดคอ.
บทว่า น นํ หิเฬ ได้แก่ ไม่พึงดูหมิ่นอายุนั้นว่าอายุนี้น้อย. บทว่า
ขีรมตฺโตว ความว่า เปรียบเหมือนเด็กอ่อนนอนหงายดื่มนม นอนบนเบาะ
กลับไปเหมือนไม่รู้สึกตัว บุคคลย่อมไม่คิดว่า อายุของใครน้อย หรือยืนยาว.
คนดีก็คิดอย่างนั้น. บทว่า จเรยฺยาทิตฺตสีโสว ได้แก่ รู้ว่าอายุน้อย พึง
ประพฤติตัวเหมือนคนมีศีรษะถูกไฟไหม้.
จบอรรถกถาปฐมอายุสูตรที่ 9