เมนู

10. พหุธิติสูตร



ว่าด้วยความสุข



[667] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ในชัฏป่าแห่งหนึ่ง
ในโกศลชนบท. ก็โดยสมัยนั้นแล โคงาน 14 ตัว ของพราหมณภารทวาชโคตร
คนหนึ่งหายไป.
[668] ครั้งนั้นแล พราหมณภารทวาชโคตรเที่ยวแสวงหาโคงาน
เหล่านั้นอยู่ เข้าไปถึงชัฏป่านั้น ครั้นแล้ว ได้เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับ
อยู่ในชัฏป่านั้น ทรงนั่งสมาธิ ตั้งพระกายตรง ทรงดำรงพระสติเฉพาะ
พระพักตร์ ครั้นแล้ว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับแล้ว ได้กล่าว
คาถาเหล่านั้นในสำนักของพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า
โคงาน 14 ตัว ของพระสมณะนี้
ไม่มีแน่ แต่ของเราหายไปได้ 60 วันเข้า
วันนี้ เพราะเหตุนั้น พระสมณะนี้จึงเป็น
ผู้มีความสุข งาทั้งหลายอันเลวมีใบหนึ่ง
และสองใบในไร่ ของพระสมณะนี้ไม่มี
เป็นแน่ เพราะเหตุนั้น พระสมณะนี้จึง
เป็นผู้มีความสุข หนูทั้งหลายในฉางเปล่า
ย่อมไม่รบกวนแก่พระสมณะนี้ด้วยการยก
หูหางขึ้นแล้วกระโดดโลดเต้นเป็นแน่
เพราะเหตุนั้น พระสมณะนี้จึงเป็นผู้มี
ความสุข เครื่องลาดของพระสมณะนี้ใช้

ตั้งเจ็ดเดือนไม่ดาดาษแล้ว ด้วยสัตว์
ทั้งหลายที่บังเกิดขึ้นเป็นแน่ เพราะเหตุนั้น
พระสมณะนี้จึงเป็นผู้มีความสุข หญิงหม้าย
บุตรธิดามีบุตรคนหนึ่งและสองคนของ
พระสมณะนี้ย่อมไม่มีแน่ เพราะเหตุนั้น
พระสมณะนี้จึงเป็นผู้มีความสุข แมลงซึ่ง
มีตัวอันลาย ไต่ตอมบุคคลผู้หลับด้วยเท้า
ย่อมไม่ไต่ตอมพระสมณะนี้เป็นแน่ เพราะ
เหตุนั้น พระสมณะนี้จึงเป็นผู้มีความสุข
ในเวลาใกล้รุ่ง เจ้าหนี้ทั้งหลาย ย่อมไม่
ทวงพระสมณะนี้ว่า ท่านทั้งหลายจงให้
ท่านทั้งหลายจงให้ ดังนี้เป็นแน่ เพราะ
เหตุนั้น พระสมณะนี้จึงเป็นผู้มีความสุข.

[669] พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ภาษิตพระคาถาตอบว่า
ดูก่อนพราหมณ์ โคงาน 14 ตัวของ
เราไม่มีเลย แต่ของท่านหายไปได้ 60 วัน
เข้าวันนี้ ดูก่อนพราหมณ์ เพราะเหตุนั้น
เราจึงเป็นผู้มีความสุข ดูก่อนพราหมณ์ งา
ทั้งหลายอันเลวมีใบหนึ่งและสองใบในไร่
ของเราไม่มีเลย ดูก่อนพราหมณ์ เพราะ
เหตุนั้น เราจึงเป็นผู้มีความสุข ดูก่อน
พราหมณ์ หนูทั้งหลายในฉางเปล่า ย่อม
ไม่รบกวนเราเลย ด้วยการยกหูหางขึ้นแล้ว

กระโดดโลดเต้น ดูก่อนพราหมณ์ เพราะ
เหตุนั้น เราจึงเป็นผู้มีความสุข ดูก่อน
พราหมณี เครื่องลาดของเราใช้ตั้งเจ็ด
เดือนไม่ดาดาษเลย ด้วยสัตว์ทั้งหลายที่
บังเกิดขึ้น ดูก่อนพราหมณ์ เพราะเหตุ
นั้น เราจึงเป็นผู้มีความสุข ดูก่อนพราหมณ์
หญิงหม้าย บุตรธิดามีบุตรคนหนึ่งและ
สองคน ของเราไม่มีเลย ดูก่อนพราหมณ์
เพราะเหตุนั้น เราจึงเป็นผู้มีความสุข
แมลงซึ่งมีตัวอันลาย ไต่ตอมบุคคลผู้หลับ
ด้วยเท้า ย่อมไม่ไต่ตอมเราเลย ดูก่อน
พราหมณ์ เพราะเหตุนั้น เราจึงเป็นผู้มี
ความสุข ดูก่อนพราหมณ์ ในเวลาใกล้รุ่ง
เจ้าหนี้ทั้งหลายย่อมไม่ทวงเราเลยว่า ท่าน
ทั้งหลายจงให้ ท่านทั้งหลายจงให้ ดูก่อน
พราหมณ์ เพราะเหตุนั้น เราจึงเป็นผู้มี
ความสุข.

[670] เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้แล้ว พราหมณภารชวาช-
โคตรได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ภาษิตของ
พระองค์แจ่มแจ้งนัก ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้ง
พระโคดมผู้เจริญทรงประกาศพระธรรมโดยปริยายเป็นอันมาก เปรียบเหมือน
บุคคลหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนหลงทาง หรือส่องประทีป
ในที่มืดด้วยคิดว่า คนมีจักษุย่อมเห็นรูปฉะนั้น ข้าพระองค์นี้ขอถึงพระสมณ-

โคดมผู้เจริญ พระธรรมและพระภิกษุสงฆ์ว่าเป็นสรณะ ข้าพระองค์พึงได้
บรรพชา พึงได้อุปสมบทในสำนักของพระโคดมผู้เจริญ.
พราหมณภารทวาชโคตรบรรพชา ได้อุปสมบทแล้วในสำนักของพระ
ผู้มีพระภาคเจ้า ก็ท่านพระภารทวาชะอุปสมบทแล้วไม่นาน หลีกไปอยู่ผู้เดียว
ไม่ประมาท มีความเพียร มีจิตมั่นคงอยู่ ไม่นานเท่าไรนัก ก็กระทำให้แจ้ง
ซึ่งคุณวิเศษอันยอดเยี่ยมเป็นที่สุดแห่งพรหมจรรย์ซึ่งกุลบุตรทั้งหลายผู้ออกจาก
เรือนบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบ มีความต้องการ ด้วยปัญญาเครื่องรู้ยิ่งเองใน
ปัจจุบันนี้เข้าถึงอยู่ ได้ทราบว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่จะ
ต้องทำได้ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นอีกเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี ก็แหละท่านพระ-
ภารทวาชะได้เป็นพระอรหันต์รูปหนึ่ง ในบรรดาพระอรหันต์ทั้งหลาย ดังนี้แล.
จบพหุธิติสูตร
จบ อรหันตวรรคที่ 1


อรรถกถาพหุธิติสูตรที่ 10



ในพหุธิติสูตรที่ 10 มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้:-
บทว่า อญฺญตรสฺมึ วนสณฺเฑ ความว่า พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรง
ตรวจดูสัตว์โลกในเวลาใกล้รุ่ง ทรงเห็นธรรมอันเป็นอุปนิสัยพระอรหัตของ
พราหมณ์นั้น ทรงพระดำริที่จะไปสงเคราะห์พราหมณ์จึงเสด็จไปประทับอยู่ใน
ไพรสณฑ์นั้น. บทว่า ปลฺลงฺกํ ได้แก่ นั่งขัดสมาธิ. บทว่า อาภุชิตฺวา