เมนู

นอบน้อมในพระขีณาสพผู้ตรงทั้งหลาย
เรากล่าวคนนั้นว่าผู้มีธรรมเป็นสาระ.

[666] เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้แล้ว สุนทริกภารทวาช-
พราหมณ์ได้กราบทูลพระผู้มีภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ภาษิตของ
พระองค์แจ่มแจ้งนัก ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก
ฯลฯ ก็แหละท่านพระภารทวาชะ ได้เป็นพระอรหันต์รูปหนึ่ง ในบรรดาพระ-
อรหันต์ทั้งหลาย ดังนี้.

อรรถกถาสุตทริกสูตร



ในสุนทริกสูตรที่ 9 มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
บทว่า สุนฺทริกภารทฺวาโช ได้แก่ ผู้มีชื่ออย่างนั้นเพราะบูชาไฟที่
ฝั่งแม่น้ำ ชื่อว่า สุนทุริกา. บทว่า สุนฺทริกาย ได้แก่แม่น้ำมีชื่ออย่างนั้น.
บทว่า อคฺคึ ชุหติ ได้แก่ให้ไฟโพลงขึ้นด้วยการใส่ของบูชา. บทว่า อคฺคิหุตฺตํ
ได้แก่เข้าไปยังโรงไฟด้วยการขัดสีฉาบทา และพลีกรรมเป็นต้น. บทว่า โก
นุโข อิมํ หพฺยเสสํ ภุญฺเชยฺย
ความว่า ได้ยินว่า พราหมณ์นั้นเห็นข้าว
ปายาสที่เหลือจากการบูชาไฟแล้วคิดว่า ข้าวปายาสที่ใส่ลงในไฟ อันมหาพรหม
บริโภคก่อนแล้ว แต่ข้าวปายาสนี้ยังเหลืออยู่ ถ้าว่าเราพึงให้ข้าวปายาสนั้นแก่
พราหมณ์ผู้เกิดแต่ปากพระพรหม เนื้อเป็นเช่นนี้ แม้บุตรพร้อมทั้งบิดาก็เป็น
ผู้เราเลี้ยงอิ่มหนำสำราญแล้ว และทางไปพรหมโลกก็เป็นอันเราทำให้บริสุทธิ์
ดีแล้ว. สุนทริกภารทวาชพราหมณ์นั้นลุกจากอาสนะ เหลียวแลดูทิศทั้ง 4 โดย