เมนู

9. เสลาสูตร



ว่าด้วยมารรบกวนเสลาภิกษุณี



[549] สาวัตถีนิทาน.
ครั้งนั้น เวลาเช้า เสลาภิกษุณีนุ่งห่มแล้ว ถือบาตรและจีวรเข้าไป
บิณฑบาตยังกรุงสาวัตถี เที่ยวบิณฑบาตไปในกรุงสาวัตถีแล้ว เวลาปัจฉาภัต
กลับจากบิณฑบาตแล้วเข้าไปยังป่าอันธวันเพื่อพักกลางวัน ครั้นถึงป่าอันธวัน
แล้ว จึงนั่งพักกลางวันที่โคนไม้ต้นหนึ่ง.
[550] ลำดับนั้น มารผู้มีบาปใคร่จะไห้เสลาภิกษุณีบังเกิดความกลัว
ความหวาดเสียว ขนพองสยองเกล้า และใคร่จะให้เคลื่อนจากสมาธิ จึงเข้า
ไปหาเสลาภิกษุณีถึงที่นั่งพัก ครั้นแล้ว ได้กล่าวกะเสลาภิกษุณีด้วยคาถาว่า
รูปนี้ ใครสร้าง ผู้สร้างรูปอยู่ที่ไหน
รูปบังเกิดในที่ไหน รูปดับไปในที่ไหน.

[551] ลำดับนั้น เสลาภิกษุณีได้มีความดำริว่า นี่ใครหนอกล่าว
คาถา จะเป็นมนุษย์หรืออมนุษย์.
ทันใดนั้น เสลาภิกษุณีได้มีความดำริว่า นี่คือมารผู้มีบาป ใคร่จะ
ให้เราบังเกิดความกลัว ความหวาดเสียว ขนพองสยองเกล้า และใคร่จะให้
เคลื่อนจากสมาธิ จึงกล่าวคาถา.
ครั้นเสลาภิกษุณีทราบว่า นี่คือมารผู้มีบาปแล้ว จึงได้กล่าวกะมาร
ผู้มีบาปด้วยคาถาว่า
รูปนี้ ไม่มีใครสร้าง อัตภาพนี้ ไม่มี
ใครก่อ รูปเกิดขึ้นเพราะอาศัยเหตุ ดับไป
เพราะเหตุดับ.

พืชชนิดใดชนิดหนึ่งที่บุคคลหว่าน
ลงในนา ย่อมงอกขึ้นเพราะอาศัยเหตุ 2
ประการ คือ รสในแผ่นดิน และยาง
ในพืช ฉันใด ขันธ์ ธาตุ และอายตนะ
6 เหล่านี้ ก็เกิดขึ้นเพราะอาศัยเหตุ ดับไป
เพราะเหตุดับ ฉันนั้น.

ลำดับนั้น มารผู้มีบาปเป็นทุกข์ เสียใจว่า เสลาภิกษุณีรู้จักเรา ดังนี้
จึงได้อันตรธานไปในที่นั้นเอง.

อรรถกถาเสลาสูตร



ในเสลาสูตรที่ 9 มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
บทว่า เกนทํ ปกตํ ความว่า ใครสร้างรูปนี้. ด้วยบทว่า พิมฺพํ
ท่านกล่าวหมายเอาอัตภาพ. ด้วยบทว่า อฆํ ท่านกล่าวเฉพาะอัตภาพ เพราะ
เป็นที่ตั้งแห่งทุกข์. บทว่า เหตุภงฺคา ได้แก่ เหตุดับ เพราะปัจจยับกพร่อง.
จบอรรถกถาเสลาสูตรที่ 9