เมนู

9. กุฏิกาสูตร



ว่าด้วยมารดาเหมือนกระท่อมเป็นต้น



[40] เทวดากล่าวว่า
กระท่อมของท่านไม่มีหรือ รังของ
ท่านไม่มีหรือ เครื่องสืบต่อของท่านไม่มี
หรือ ท่านเป็นผู้พ้นแล้วจากเครื่องผูกหรือ.

[41] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
แน่ละ กระท่อมของเราไม่มี แน่ละ
รังของเราไม่มี แน่ละ เครื่องสืบต่อของ
เราไม่มี แน่ละ เราเป็นผู้พ้นแล้วจาก
เครื่องผูก.

[42] เทวดากล่าวว่า
ข้าพเจ้ากล่าวแก่ท่านว่า อะไรเป็น
กระท่อม ข้าพเจ้ากล่าวแก่ท่านว่าอะไร
เป็นรัง ข้าพเจ้ากล่าวแก่ท่านว่าอะไรเป็น
เครื่องสืบต่อ ข้าพเจ้ากล่าวแก่ท่านว่า
อะไรเป็นเครื่องผูก.

[43] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
ท่านกล่าวมารดาว่าเป็นกระท่อม
ท่านกล่าวภรรยาว่าเป็นรัง ท่านกล่าวบุตร
ว่าเป็นเครื่องสืบต่อ ท่านกล่าวตัณหาว่า
เป็นเครื่องผูกแก่เรา.

เทวดาฟังพระดำรัสแล้วชื่นชมอนุโมทนาว่า
ดีจริง กระท่อมของท่านไม่มี ดีจริง
รังของท่านไม่มี ดีจริง เครื่องสืบต่อของ
ท่านไม่มี ดีจริง ท่านเป็นผู้พ้นแล้วจาก
เครื่องผูก...


อรรถกถากุฏิกาสูตร



วินิจฉัยในกุฏิกาสูตรที่ 9 ต่อไป :-
บทว่า กจฺจิ เต กุฏิกา เป็นต้น อธิบายว่า เทวดานี้ประมวลปัญหา
เหล่านี้มาผูกเป็นคาถาโดยกระทำมารดาให้เป็นดังกระท่อม เพราะหมายเอาการ
อยู่ในท้อง 10 เดือน กระทำภรรยาให้เป็นดังรัง (รังนก) ด้วยอำนาจแห่งความ
อาลัย เหมือนพวกนกเที่ยวหาอาหารตลอดวันแล้วก็มาเกาะอยู่ในรังในเวลาราตรี
ฉันใด สัตว์ทั้งหลาย ก็ฉันนั้นเหมือนกัน แม้จะไปในที่นั้น ๆ แล้วก็ย่อมมา
สู่สำนักแห่งมาตุคาม กระทำบุตรทั้งหลายให้เป็นดังเครื่องสืบต่อ เพราะหมาย
เอาการสืบต่อตระกูลและประเพณี แล้วจึงทูลถามกะพระผู้มีพระภาคเจ้า. แม้
พระผู้มีพระภาคเจ้าเมื่อจะทรงวิสัชนาปัญหาแก่เทวดานั้น จึงตรัสคำว่า ตคฺฆ
เป็นต้น แปลว่า แน่ละ กระท่อมของเราไม่มี แน่ละ รังของเราไม่มี แน่ละ
เครื่องสืบต่อของเราไม่มี แน่ละ เราเป็นผู้พ้นแล้วจากเครื่องผูก.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ตคฺฆ เป็นนิบาต ในคำโดยส่วนเดียว.
บทว่า นตฺถิ ได้แก่ ละได้แล้ว เพราะความที่เราเป็นบรรพชิต อีกอย่างหนึ่ง
ชื่อว่า ไม่มี เพราะไม่มีการอยู่ในท้องของมารดาในวัฏฏะอีก ไม่มีการเลี้ยงดู