เมนู

อรรถกถาปฐมาปุตตกสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในปฐมาปุตตกสูตรที่ 9 ต่อไป :-
บทว่า ทิวาทิวสฺส แปลว่า วันแห่งวัน อธิบายว่า เวลากลางวัน
(เที่ยงวัน). บทว่า สาปเตยฺยํ แปลว่า ทรัพย์. บทว่า โก ปน วาโท
รูปิยสฺส
ความว่า ก็จะป่วยกล่าวไปไยถึงสิ่ง ทั้งที่ทำเป็นแท่ง ต่างโดยเป็น
เงิน ทองแดง เหล็ก สำริดเป็นต้น ทั้งที่เป็นรูปิยภัณฑ์ ต่างโดยเป็นภาชนะ
ใช้สอยเป็นต้น คือจะพูดกำหนดอะไรกันว่า ชื่อมีเท่านี้. บทว่า กณาชกํ
ได้แก่ ข้าวมีรำ (ข้าวกล้อง). บทว่า ทิลงฺคทุติยํ แปลว่า มีน้ำส้มพะอูม
เป็นที่สอง. บทว่า สาณํ ได้แก่ ผ้าที่ทำด้วยเปลือกป่าน. บทว่า ติปกฺข-
วสนํ
ได้แก่ ผ้าที่ตัดเป็น 3 ชิ้น เย็บริมทั้งสองติดกัน.
บทว่า อสปฺปุริโส แปลว่า บุรุษผู้เลว. ทักษิณาชื่อว่า อุทฺธคฺคิกา
ในคำว่า อุทฺธคฺคิกํ เป็นต้น เพราะมีผลในเบื้องบน (สูง) โดยให้ผลใน
ภูมิสูง ๆ ขึ้นไป. ชื่อว่า โสวคฺคิกา เพราะเป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่สวรรค์
เหตุให้อุบัติในสวรรค์นั้น. ชื่อว่า สุขวิปากา เพราะทักษิณานั้นมีสุขเป็นวิบาก
ในที่บังเกิดแล้วบังเกิดเล่า. ชื่อว่า สคฺคสํวตฺตนิกา เพราะเป็นที่บังเกิดของ
วิเศษ มีวรรณะทิพย์เป็นต้นอันเลิศดี. อธิบายว่า ทักษิณาทานเห็นปานนี้
ย่อมประดิษฐานอยู่.
บทว่า สาโตทกา ได้แก่ มีน้ำรสอร่อย. บทว่า เสตกา ได้แก่
น้ำอันขาว เพราะน้ำในที่คลื่นแตกกระจาย สีขาว. บทว่า. สุปติตฺถา แปลว่า
มีท่าอันดี. บทว่า ตญฺชโน ความว่า น้ำที่จืดสนิท โดยน่าชนิดใด ชนหา

พึงบรรจุน้ำชนิดนั้นใส่ภาชนะนำไปได้ไม่. บทว่า น ยถาปจฺจยํ กเรยฺย
ความว่า กิจด้วยน้ำใด ๆ บุคคลพึงทำด้วยน้ำ เขาหาพึงทำกิจด้วยน้ำนั้น ๆ
ได้ไม่. บทว่า ตทเปยฺยมานํ แปลว่า น้ำนั้นเขาดื่มไม่ได้. บทว่า กิจฺจกโร
จ โหติ
ความว่า ผู้ทำกิจคือการงาน และผู้ทำกิจคือกุศลของตน ย่อมบริโภค
ย่อมประกอบการงานและให้ทาน.
จบอรรถกถาปฐมาปุตตกสูตรที่ 9

10. ทุติยาปุตตกสูตร



[390] ครั้งนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศล เสด็จเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าในเวลาเที่ยงวัน ถวายบังคมแล้ว ประทับนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง.
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสกะพระเจ้าปเสนทิโกศลว่าเชิญเถิดมหาบพิตร
พระองค์เสด็จจากไหนมา ในเวลาเที่ยงวัน.
พระเจ้าปเสนทิโกศลทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ คฤหบดีผู้เป็นเศรษฐี
ในกรุงสาวัตถีนี้ กระทำกาลกิริยาแล้ว ข้าพระองค์ให้ขนทรัพย์สมบัติอันไม่มี
บุตรรับมรดกนั้น มาไว้ในวังแล้วก็มา ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เฉพาะเงิน
เท่านั้นมี 10,000,000 ส่วนเครื่องรูปิยะไม่ต้องพูดถึง ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
ก็คฤหบดีผู้เป็นเศรษฐีนั้น ได้บริโภคอาหารเห็นปานนี้ คือบริโภคปลายข้าว
กับน้ำส้มพะอูม ได้ใช้ผ้าเครื่องนุ่งห่มเห็นปานนี้ คือนุ่งห่มผ้าเนื้อหยาบที่ตัด
เป็นสามชิ้นเย็บติดกัน ได้ใช้ยานพาหนะเห็นปานนี้ คือใช้รถเก่า ๆ กั้นร่มทำ
ด้วยใบไม้.
[391] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนมหาบพิตร ข้อนี้เป็น
อย่างนั้น ดูก่อนมหาบพิตร ข้อนี้เป็นอย่างนั้น ดูก่อนมหาบพิตร เรื่องเคยมี
มาแล้ว คฤหบคีผู้เป็นเศรษฐีนั้น ได้สั่งให้จัดบิณฑบาตถวายพระปัจเจก-
สัมพุทธะ นามว่า ตครสิขี ว่าท่านทั้งหลาย จงถวายบิณฑะแก่สมณะแล้วลุก
จากอาสนะเดินหลีกไป แต่ครั้นถวายแล้ว ภายหลังได้มีความเสียดายว่า
บิณฑบาตนี้ ทาสหรือกรรมกรพึงบริโภคยังดีกว่า นอกจากนี้เขายังปลงชีวิต
บุตรน้อยคนเดียวของพี่ชาย เพราะเหตุทรัพย์สมบัติอีก ดูก่อนมหาบพิตร
การที่คฤหบดีผู้เป็นเศรษฐีนั้น สั่งให้จัดบิณฑบาตถวายพระตครสิขีปัจเจก