เมนู

9. อุตตรสูตร



[273] ราชคฤหนิทาน. อุตตรเทวบุตร ยืนอยู่ ณ ที่ควร
ส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้กล่าวคาถานี้ ในสำนักพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า
ชีวิตมีอายุน้อย ถูกชราต้อนเข้าไป
ชีวิตที่ถูกชราต้อนเข้าไปแล้ว ย่อมต้าน
ทานไม่ได้ บุคคลเล็งเห็นภัยในมรณะนี้
แล้ว พึงทำบุญอันจะนำความสุขมาให้.

[274] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
ชีวิตมีอายุน้อย ถูกชราต้อนเข้าไป
ชีวิตที่ถูกชราต้อนเข้าไปแล้ว ย่อมต้าน
ทานไม่ได้ ผู้เห็นภัยในความตายนี้มุ่งต่อ
สันติ พึงละโลกามิสเสีย.


อรรถกถา



อุตตรสูตรที่ 9 มีเนื้อความกล่าวมาแล้วเหมือนกัน.

10. อนาถปิณฑิกสูตร



[275] อนาถบิณฑิกเทวบุตร ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว
ได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ในสำนักพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า
ก็พระเชตวันนี้นั้น อันหมู่แห่งท่าน
ผู้แสวงคุณพำนักอยู่ พระธรรมราชาก็
ประทับอยู่แล้ว เป็นที่ให้เกิดปีติแก่ข้า
พระองค์. สัตว์ทั้งหลาย ย่อมบริสุทธิ์ด้วย
ส่วน 5 นี้ คือ กรรม วิชชา ธรรม ศีล
และชีวิตอันอุดม หาใช่บริสุทธิ์ด้วยโคตร
หรือทรัพย์ไม่. เพราะเหตุนั่นแหละ บุรุษ
ผู้เป็นบัณฑิต เมื่อเล็งเห็นประโยชน์ของ
ตน พึงเลือกเฟ้นธรรมโดยแยบคายอย่างนี้
จึงจะบริสุทธิ์ในธรรมนั้น พระสารีบุตรรูป
เดียวเท่านั้น เป็นผู้ประเสริฐด้วยปัญญา
ศีล และอุปสมธรรม เครื่องสงบระงับ
ภิกษุใดเป็นผู้ถึงซึ่งฝั่ง คือนิพพาน ภิกษุ
นั้นก็พึงเทียบเท่าท่านพระสารีบุตรนั้น.

อนาถบิณฑิกเทวบุตร ครั้นได้กล่าวดังนี้แล้ว ก็ถวายบังคมพระผู้มี
พระภาคเจ้า ทำประทักษิณแล้วอันตรธานไปในที่นั้นเอง.
[276] ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อล่วงราตรีนั้นแล้ว
จึงตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมาว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อคืนนี้เทวบุตรองค์หนึ่ง