เมนู

อรรถกถากกุธสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในกกุธสูตรที่ 8 ต่อไป :-
บทว่า กกุโธ เทวปุตฺโต ความว่า ได้ยินว่า เทพบุตรองค์นี้
เป็นบุตรอุปัฏฐากของพระมหาโมคคัลลานเถระ ในโกฬนคร เมื่อวัยรุ่นอยู่ใน
สำนักของพระเถระ ทำฌานให้เกิดแล้ว ทำกาละ [ตาย] ไปอุบัติในพรหมโลก
แม้ในพรหมโลกนั้น เหล่าพรหมก็รู้จักเขาว่ากกุธพรหมนั่นแล. บทว่า นนฺทสิ
แปลว่า ยินดี. บทว่า กึ ลทฺธา ความว่า บุคคลได้ของที่พอใจไร ๆ ชื่อว่า
ผู้ยินดี เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสอย่างนี้. บทว่า กึ ชิยิตฺถ
ความว่า ก็ผู้ใดเสื่อมเสียสิ่งของมีผ้าเป็นต้นที่พอใจไร ๆ ผู้นั้นย่อมเศร้าโศก
เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสอย่างนั้น. บทว่า อรติ นาภิกีรติ
ความว่า ความระอาย่อมไม่ครอบงำ. บทว่า อฆชาตสฺส ความว่า ผู้เกิดทุกข์
คือตั้งอยู่ในวัฏทุกข์. บทว่า นนฺทิชาตสฺส ได้แก่ ผู้เกิดตัณหา. จริงอยู่
วัฏทุกข์ของบุคคลเห็นปานนั้นก็มา [เรียก] ว่า อฆะ. สมจริง ดังคำที่
ท่านกล่าวว่า ผู้เป็นทุกข์ ย่อมปรารถนาสุข. ดังนั้น ความยินดี จึงมีแก่ผู้
เกิดทุกข์. ส่วนทุกข์ก็มาเหมือนกัน เมื่อสุขแปรปรวนไป เหตุนั้น ทุกข์จึงมี
แก่ผู้เกิดความยินดี.
จบอรรถกถากกุธสูตรที่ 8

9. อุตตรสูตร



[273] ราชคฤหนิทาน. อุตตรเทวบุตร ยืนอยู่ ณ ที่ควร
ส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้กล่าวคาถานี้ ในสำนักพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า
ชีวิตมีอายุน้อย ถูกชราต้อนเข้าไป
ชีวิตที่ถูกชราต้อนเข้าไปแล้ว ย่อมต้าน
ทานไม่ได้ บุคคลเล็งเห็นภัยในมรณะนี้
แล้ว พึงทำบุญอันจะนำความสุขมาให้.

[274] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
ชีวิตมีอายุน้อย ถูกชราต้อนเข้าไป
ชีวิตที่ถูกชราต้อนเข้าไปแล้ว ย่อมต้าน
ทานไม่ได้ ผู้เห็นภัยในความตายนี้มุ่งต่อ
สันติ พึงละโลกามิสเสีย.


อรรถกถา



อุตตรสูตรที่ 9 มีเนื้อความกล่าวมาแล้วเหมือนกัน.