เมนู

อรรถกถาอิสสรสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในอิสสรสูตรที่ 7 ต่อไป:-
บทว่า สตฺถมลํ ได้แก่ ศัสตราที่มีสนิมเกาะแล้ว. บทว่า กึสุ
หรนฺตํ วาเรนฺติ
คือย่อมป้องกันมิให้นำไป. บทว่า วโส ได้แก่ ความ
เป็นไปทั่วแห่งอำนาจ. บทว่า อิตฺถี ความว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
หญิง เป็นสูงสุดแห่งภัทฑะทั้งหลายคือเป็นภัณฑะอันประเสริฐ เพราะเป็น
ภัณฑะที่ไม่พึงทอดทิ้ง. อีกอย่างหนึ่ง พระโพธิสัตว์ทั้งหลายและพระเจ้า
จักรพรรดิแม้ทั้งหมด ย่อมเกิดในท้องของมารดาเท่านั้น เพราะฉะนั้น
พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า หญิงเป็นสูงสุด แห่งภัณฑะทั้งหลาย ดังนี้.
บทว่า โกโธ สตฺถมลํ อธิบายว่า ความโกรธเช่นกับด้วยศัสตรา
อันสนิมเกาะกินแล้ว. อีกอย่างหนึ่ง เป็นสนิมของศัสตราคือ ปัญญา เพราะฉะนั้น
จึงตรัสว่า สนิมของศัสตรา ดังนี้. บทว่า อพฺพุทํ ได้แก่ เป็นเหตุแห่ง
ความพินาศ อธิบายว่า พวกโจรเป็นผู้ทำความพินาศในโลก. บทว่า หรนฺโต
ความว่า ถือเอาวัตถุทั้งหลายมีสลากภัตเป็นต้นไปอยู่. จริงอย่างนั้น สมณะ
เมื่อนำวัตถุทั้งหลายมีสลากภัตเป็นต้นเหล่านั้นอันมนุษย์ทั้งหลาย สละถวายแล้ว
ในเวลาที่ตั้งไว้นั่นแหละไป ชื่อว่า ย่อมเป็นที่รักของมนุษย์เหล่านั้น. เมื่อ
สมณะไม่นำวัตถุไป พวกมนุษย์ย่อมเป็นผู้วิปปฏิสาร (เดือดร้อน) เพราะ
อาศัยความเสื่อมจากบุญ (ที่จะได้).
จบอรรถกถาอิสสรสูตรที่ 7

8. กามสูตร



[213] เทวดาทูลถามว่า
กุลบุตรผู้ใคร่ประโยชน์ไม่ควรให้สิ่ง
อะไร คนไม่ควรสละอะไร อะไรหนอที่
เป็นส่วนดีงามควรปล่อย แต่ที่เป็นส่วน
ลามกไม่ควรปล่อย.

[214] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า
บุรุษไม่พึงให้ซึ่งตน ไม่พึงสละซึ่ง-
ตน วาจาที่ดีควรปล่อย แต่วาจาที่ลามก
ไม่ควรปล่อย.


อรรถกถากามสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในกามสูตรที่ 8 ต่อไป :-
บทว่า ไม่พึงให้ซึ่งตน นี้ ท่านอธิบายว่า ยกเว้นพระโพธิสัตว์
ทั้งหลายแล้ว บุคคลไม่พึงให้ซึ่งตนโดยการทำตนให้เป็นทาสของผู้อื่น. บทว่า
น ปริจฺจเช อธิบายว่า ยกเว้นพระโพธิสัตว์ทั้งหลายนั่นแหละ บุคคลไม่พึง
สละซึ่งตนให้แก่สัตว์ทั้งหลายมีสีหะและพยัคฆ์ร้ายเป็นต้น. บทว่า กลฺยาณิ
ได้แก่ วาจาสุภาพอ่อนโยน. บทว่า ปาปิกํ คือ วาจาหยาบคาย.
จบอรรถกถากามาสูตรที่ 8