เมนู

อาทิตตวรรคที่ 5



1. อาทิตตสูตร



ว่าด้วยผลของการให้ทาน



[135] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้:-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อาราม
ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี ครั้งนั้นแล เมื่อปฐมยามล่วงไปแล้ว
เทวดาองค์หนึ่ง ซึ่งมีวรรณะงาม ยังพระวิหารเชตวันทั้งสิ้นให้สว่างเข้าไปเฝ้า
พระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นแล้วจึงอภิวาทพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วยืนอยู่ ณ ที่
ควรส่วนข้างหนึ่ง.
[136] เทวดานั้นยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้กล่าวคาถา
เหล่านี้ในสำนักพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า
เมื่อเรือนลูกไฟไหม้แล้ว เจ้าของ
เรือนขนเอาภาชนะได้ออกไปได้ ภาชนะ
นั้นย่อมเป็นประโยชน์แก่เขา ส่วนสิ่งของ
ที่มิได้ขนออกไป ย่อมไหม้ในไฟนั้น
ฉันใด.
โลก (คือหมู่สัตว์) อันชราและมรณะ
เผาแล้ว ก็ฉันนั้น ควรนำออก (ซึ่งโภค-
สมบัติ) ด้วยการให้ทาน เพราะทานวัตถุ
ที่บุคคลให้แล้ว ได้ชื่อว่านำออกดีแล้ว.

ทานวัตถุที่บุคคลให้แล้วนั้นย่อมมีสุข
เป็นผล ที่ยังมิได้ให้ย่อมไม่เป็นเหมือน
เช่นนั้น โจรยังปล้นได้ พระราชายังริบได้
เพลิงยังไหม้ได้ หรือสูญหายไปได้.
อนึ่ง บุคคลจำต้องละร่างกายพร้อม
ด้วยสิ่งเครื่องอาศัยด้วยตายจากไป ผู้มี
ปัญญารู้ชัด ดั่งนี้แล้ว ควรใช้สอยและ
ให้ทาน.
เมื่อได้ให้ทานและใช้สอยตามควร
แล้ว จะไม่ถูกติฉิน เข้าถึงสถานที่อัน
เป็นสวรรค์.


อรรถกถาอาทิตตสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในวรรคที่ 5 แห่งอาทิตตสูตรที่ 1 ต่อไป :-
บทว่า ชราย มรเณน จ นี้ เป็นหัวข้อแห่งเทศนา อธิบายว่า
โลกคือหมู่สัตว์ถูกไฟทั้งหลาย 11 กอง* มีราคะเป็นต้น แผดเผาแล้วเทียว.
บทว่า ทาเนน ได้แก่มีเจตนาในการให้ทาน. บทว่า ทินฺนํ โหติ สุนีภตํ
ความว่า เจตนาอันเป็นบุญในการให้ย่อมมีแก่ทายกนั่นแหละ เหมือนสิ่งของ
อันเจ้าของเรือนนำออกแล้ว ด้วยเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวว่า โจรา หรนฺติ
* ไฟ 11 กองคือ ราคะ, โทสะ, โมหะ, ชาติ, ชรา, มรณะ, โสกะ, ปริเทวะ, ทุกข์, โทมนัส,
อุปายาส