เมนู

ภิกษุเหล่านั้นทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ณ โอกาสนี้ พวกข้าพระ-
องค์กลับจากบิณฑบาตภายหลังเวลาอาหารแล้ว นั่งประชุมกันในอุปัฏฐาน
ศาลา เกิดข้อสนทนากันขึ้นในระหว่างดังนี้ว่า ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย
น่าอัศจรรย์จริงไม่น่าเป็นไปได้เลย ข้อที่พระตถาคตมีอิทธานุภาพมาก ซึ่งเป็น
เหตุให้ทรงทราบพระพุทธเจ้าในอดีต ผู้ปรินิพพานแล้ว ทรงตัดปปัญจธรรม
แล้ว ทรงตัดตอวัฏฏะแล้ว ทรงครอบงำวัฏฏะแล้ว ทรงล่วงทุกข์ทั้งปวงแล้ว
ว่าพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ๆ มีพระชาติอย่างนี้บ้าง มีพระนามอย่างนี้บ้าง มี
พระโคตรอย่างนี้บ้าง มีศีลอย่างนี้บ้าง มีธรรมอย่างนี้บ้าง มีปัญญาอย่างนี้บ้าง
มีวิหารธรรมอย่างนี้บ้าง มีวิมุตติอย่างนี้บ้าง ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อพวก
ข้าพระองค์สนทนากันอย่างนี้ ท่านพระอานนท์ได้กล่าวกะพวกข้าพระองค์ดังนี้
ว่า ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย พระตถาคตทั้งหลาย ทั้งน่าอัศจรรย์และ
ประกอบด้วยธรรมน่าอัศจรรย์ พระตถาคตทั้งหลาย ทั้งไม่น่าเป็นไปได้และ
ประกอบด้วยธรรมไม่น่าเป็นไปได้ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้อสนทนากันใน
ระหว่างของพวกข้าพระองค์ค้างอยู่เท่านี้แล พอดีพระผู้มีพระภาคเจ้าก็เสด็จ
มาถึง.
[359] ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสกะท่านพระอานนท์ว่า
ดูก่อนอานนท์ ถ้ากระนั้นแล ขอธรรมอันไม่น่าเป็นไปได้ อันน่าอัศจรรย์ของ
ตถาคต จงแจ่มแจ้งกะเธอโดยประมาณอันยิ่ง ๆ เถิด.

ว่าด้วยเข้าถึงหมู่เทวดาชั้นดุสิต


[360] ท่านพระอานนท์ทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์
ได้สดับรับมาเฉพาะพระพักตร์พระผู้มีพระภาคเจ้าดังนี้ว่า ดูก่อนอานนท์ พระ
โพธิสัตว์มีสติสัมปชัญญะ ได้เข้าถึงหมู่เทวดาชั้นดุสิต ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ

แม้ข้อนี้ ข้าพระองค์ก็ทรงจำไว้ว่า เป็นธรรมไม่น่าเป็นไปได้ น่าอัศจรรย์
ของพระผู้มีพระภาคเจ้า.
[361] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ได้สดับรับมาเฉพาะพระ-
พักตร์ พระผู้มีพระภาคเจ้าดังนี้ว่า ดูก่อนอานนท์ พระโพธิสัตว์มีสติ
สัมปชัญญะ ได้สถิตอยู่ในหมู่เทวดาชั้นดุสิต ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ แม้ข้อนี้
ข้าพระองค์ก็ทรงจำไว้ว่า เป็นธรรมไม่น่าเป็นไปได้ น่าอัศจรรย์ ของพระผู้
มีพระภาคเจ้า.
[362] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ได้สดับรับมาเฉพาะ
พระพักตร์ พระผู้มีพระภาคเจ้าดังนี้ว่า ดูก่อนอานนท์ พระโพธิสัตว์ได้สถิต
อยู่ในหมู่เทวดาชั้นดุสิตจนตลอดอายุ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ แม้ข้อนี้
ข้าพระองค์ก็ทรงจำไว้ว่า เป็นธรรมไม่น่าเป็นไปได้ น่าอัศจรรย์ของพระผู้มี-
พระภาคเจ้า.
[363] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ได้สดับรับมาเฉพาะ
พระพักตร์ พระผู้มีพระภาคเจ้าดังนี้ว่า ดูก่อนอานนท์ พระโพธิสัตว์มีสติ
สัมปชัญญะ จุติจากหมู่เทวดาชั้นดุสิตแล้วลงสู่พระครรภ์พระมารดา ข้าแต่
พระองค์ผู้เจริญ แม้ข้อนี้ ข้าพระองค์ก็ทรงจำไว้ว่าเป็นธรรมไม่น่าเป็นไปได้
น่าอัศจรรย์ ของพระผู้มีพระภาคเจ้า.
[364] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ได้สดับรับมาเฉพาะพระ-
พักตร์ พระผู้มีพระภาคเจ้าดังนี้ว่า ดูก่อนอานนท์. ในกาลใดพระโพธิสัตว์จุติ
จากหมู่เทวดาชั้นดุสิตลงสู่พระครรภ์พระมารดา ในกาลนั้น แสงสว่างอย่าง
โอฬารหาประมาณมิได้ ล่วงเสียซึ่งเทวานุภาพของเหล่าเทวดา ย่อมปรากฏใน
โลก พร้อมทั้งเทวดามารพรหม และในหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณะและพราหมณ์
พร้อมทั้งเทวดาและมนุษย์ แม้ในโลกันตริกนรกมีแต่ทุกข์ ซึ่งไม่ใช่ที่เปิดเผย

มีแต่ความมืดมิด ซึ่งดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ มีอิทธานุภาพมากอย่างนี้ ส่อง
แสงไปไม่ถึง ก็ยังปรากฏแสงสว่างอย่างโอฬารหาประมาณมิได้ ล่วงเสียซึ่ง
เทวานุภาพของเหล่าเทวดา ด้วยแสงสว่างนั้น แม้หมู่สัตว์ผู้อุปบัติในนรกนั้น
ก็รู้กันว่า แม้สัตว์เหล่าอื่นก็มีเกิดในที่นี้ อนึ่ง หมื่นโลกธาตุนี้ย่อมสะเทือน
สะท้าน หวั่นไหว และแสงสว่างอย่างโอฬารหาประมาณมิได้ ล่วงเสียซึ่ง
เทวานุภาพของเหล่าเทวดา ย่อมปรากฏในโลก ข้าแด่พระองค์ผู้เจริญ แม้ข้อนี้
ข้าพระองค์ก็ทรงจำไว้ว่า เป็นธรรมไม่น่าเป็นไปได้ น่าอัศจรรย์ของพระผู้มี-
พระภาคเจ้า.
[365] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ได้สดับรับมาเฉพาะ
พระพักตร์ พระผู้มีพระภาคเจ้าดังนี้ว่า ดูก่อนอานนท์ ในกาลใด พระโพธิ
สัตว์เสด็จลงสู่พระครรภ์พระมารดาแล้ว ในกาลนั้น เทวบุตรทั้ง 4 จะใกล้ชิด
พระโพธิสัตว์ถวายอารักขาใน 4 ทิศ ด้วยคิดว่า มนุษย์ หรืออมนุษย์ หรือ
ใคร ๆ อย่าได้เบียดเบียนพระโพธิสัตว์ หรือพระมารดาของพระโพธิสัตว์เลย
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ แม้ข้อนี้ ข้าพระองค์ก็ทรงจำไว้ว่า เป็นธรรมไม่น่า
เป็นไปได้ น่าอัศจรรย์ ของพระผู้มีพระภาคเจ้า.
[366] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ได้สดับรับมาเฉพาะพระ-
พักตร์ พระผู้มีพระภาคเจ้าดังนี้ว่า ดูก่อนอานนท์ ในกาลใด พระโพธิสัตว์
เสด็จลงสู่พระครรภ์พระมารดาแล้ว ในกาลนั้น พระมารดาของพระโพธิสัตว์
จะเป็นผู้มีศีลโดยปกติ คือ เว้นขาดจากปาณาติบาต เว้นขาดจากอทินนาทาน
เว้นขาดจากกาเมสุมิจฉาจาร เว้นขาดจากมุสาวาท เว้นขาดจากฐานะเป็นที่ตั้ง
แห่งความประมาท เพราะดื่มน้ำเมาคือสุราและเมรัย ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
แม้ข้อนี้ ข้าพระองค์ก็ทรงจำไว้ว่า เป็นธรรมไม่น่าเป็นไปได้ น่าอัศจรรย์
ของพระผู้มีพระภาคเจ้า.

เสด็จลงสู่พระครรภ์พระมารดา


[367] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ได้สดับรับมาเฉพาะพระ-
พักตร์ พระผู้มีพระภาคเจ้าดังนี้ ว่า ดูก่อนอานนท์ ในกาลใด พระโพธิสัตว์
เสด็จลงสู่พระครรภ์พระมารดาแล้ว ในกาลนั้น พระมารดาของพระโพธิสัตว์
มิได้พระหฤทัยใฝ่ฝันในกามคุณในบุรุษเกิดขึ้น และจะเป็นผู้ไม่ถูกบุรุษไร ๆ ที่มี
จิตกำหนัดแล้วล่วงเกินได้ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ แม้ข้อนี้ ข้าพระองค์ก็ทรง
จำไว้ว่า เป็นธรรมไม่น่าเป็นไปได้ น่าอัศจรรย์ ของพระผู้มีพระภาคเจ้า.
[368] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ได้สดับรับมาเฉพาะพระ-
พักตร์ พระผู้มีพระภาคเจ้าดังนี้ว่า ดูก่อนอานนท์ ในกาลใด พระโพธิสัตว์
เสด็จลงสู่พระครรภ์พระมารดาแล้ว ในกาลนั้น พระมารดาของพระโพธิสัตว์
จะเป็นผู้ได้เบญจกามคุณ คือ พระนางจะเพรียบพร้อม พรั่งพร้อมด้วยกาม
คุณ 5 บำเรออยู่ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ แม้ข้อนี้ ข้าพระองค์ก็ทรงจำไว้ว่า
เป็นธรรมไม่น่าเป็นไปได้น่าอัศจรรย์ ของพระผู้มีพระภาคเจ้า.
[369] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ได้สดับรับมาเฉพาะพระ-
พักตร์ พระผู้มีพระภาคเจ้าดังนี้ว่า ดูก่อนอานนท์ ในกาลใด พระโพธิสัตว์
เสด็จสงสู่พระครรภ์พระมารดาแล้ว ในกาลนั้น พระมารดาของพระโพธิสัตว์
ไม่มีพระโรคาพาธไร ๆ เกิดขึ้น จะมีความสุข ไม่ลำบากพระกาย และจะทรง
เห็นพระโพธิสัตว์ประทับอยู่ภายในพระอุทร มีพระอวัยวะน้อยใหญ่ครบ มี
อินทรีย์ไม่เสื่อมโทรมได้ เปรียบเหมือนแก้วไพฑูรย์งามโชติช่วงแปดเหลี่ยม
อันเขาเจียระไนดีแล้ว ในแก้วนั้นเขาร้อยด้ายสีเขียว หรือสีเหลืองอ่อน สีแดง
สีขาว สีเหลืองแก่ เข้าไว้ บุรุษผู้มีตาดี วางแก้วนั้นในมือ พึงเห็นชัดได้ว่า
แก้วไพฑูรย์นี้งามโชติช่วงแปดเหลี่ยม อันเขาเจียระไนดีแล้ว ในแก้วนั้น
เขาร้อยด้ายสีเขียว หรือสีเหลืองอ่อน สีแดง สีขาว สีเหลืองแก่ เข้าไว้