เมนู

หายไปได้ เราจักทำให้ไม่เกิดวิจิกิจฉา อมนสิการ และถีนมิทธะขึ้นแก่เราได้
อีก.
[455] ดูก่อนอนุรุทธะ เรานั้นผู้ไม่ประมาท ฯลฯ ดูก่อนอนุรุทธะ
เรานั้นได้มีความรู้ดังนี้ว่า ความหวาดเสียวแล เกิดขึ้นแล้วแก่เรา ก็ความหวาด
เสียวเป็นเหตุ สมาธิของเราจึงเคลื่อน เมื่อสมาธิเคลื่อนแล้ว แสงสว่างและ
การเห็นรูปจึงหายไปได้ ดูก่อนอนุรุทธะ เปรียบเหมือนบุรุษเดินทางไกล
เกิดมีคนปองร้ายเขาขึ้นที่สองข้างทาง เขาจึงเกิดความหวาดเสียว เพราะถูก
คนปองร้ายนั้นเป็นเหตุ ฉันใด ดูก่อนอนุรุทธะ ฉันนั้นเหมือนกันแล ความ
หวาดเสียวแลเกิดขึ้นแล้วแก่เรา ก็ความหวาดเสียวเป็นเหตุ สมาธิของเราจึง
เคลื่อน เมื่อสมาธิเคลื่อนแล้ว แสงสว่างและการเห็นรูปจึงหายไปได้ เราจัก
ทำให้ไม่เกิดวิจิกิจฉา อมนสิการ ถีนมีทธะและความหวาดเสียวขึ้นแก่เราได้อีก.

ว่าด้วยเกิดความตื่นเต้น


[456] ดูก่อนอนุรุทธะ เรานั้นผู้ไม่ประมาท ฯลฯ ดูก่อนอนุรุทธะ
เรานั้น ได้มีความรู้ดังนี้ว่า ความตื่นเต้นแล เกิดขึ้นแล้วแก่เรา ก็ความตื่น
เต้นเป็นเหตุ สมาธิของเราจึงเคลื่อน เมื่อสมาธิเคลื่อนแล้ว แสงสว่างและการ
เห็นรูปจึงหายไปได้ ดูก่อนอนุรุทธะเปรียบเหมือนบุรุษแสวงหาแหล่งขุมทรัพย์
แห่งหนึ่ง พบแหล่งขุมทรัพย์เข้า 5 แห่งในคราวเดียวกัน เขาจึงเกิดความตื่น
เต้น เพราะพบแหล่งชุมทรัพย์ 5 แห่งนั้นเป็นเหตุ ฉัน ใด ดูก่อนอนุรุทธะ
ฉันนั้นเหมือนกันแล ความตื่นเต้นแลเกิดขึ้นแล้วแก่เรา ก็ความตื่นเต้นเป็น
เหตุ สมาธิของเราจึงเคลื่อน เมื่อสมาธิเคลื่อนแล้ว แสงสว่างและการเห็นรูป
จึงหายไปได้ เราจักทำให้ไม่เกิดวิจิกิจฉา อมนสิการ ถีนมิทธะความหวาดเสียว
และความตื่นเต้นขึ้นแก่เราได้อีก.

[457] ดูก่อนอนุรุทธะ เรานั้นผู้ไม่ประมาท ฯลฯ ดูก่อนอนุรุทธะ
เรานั้นได้มีความรู้ดังนี้ว่า ความชั่วหยาบแล เกิดขึ้นแล้วแก่เรา ก็ความชั่ว
หยาบเป็นเหตุ สมาธิของเราจึงเคลื่อน เมื่อสมาธิเคลื่อนแล้ว แสงสว่างและ
การเห็นรูปจึงหายไปได้ เราจักทำให้ไม่เกิดวิจิกิจฉา อมนสิการ ถีนมิทธะ
ความหวาดเสียว ความตื่นเต้น และความชั่วหยาบขึ้นแก่เราได้อีก.
[458] ดูก่อนอนุรุทธะ เรานั้นผู้ไม่ประมาท ฯลฯ ดูก่อนอนุรุทธะ
เรานั้นได้มีความรู้ดังนี้ว่า ความเพียรที่ปรารภเกินไปแล เกิดขึ้นแล้วแก่เรา
ก็ความเพียรที่ปรารภเกินไปเป็นเหตุ สมาธิของเราจึงเคลื่อน เมื่อสมาธิเคลื่อน
แล้ว แสงสว่างและการเห็นรูปจึงหายไปได้ ดูก่อนอนุรุทธะ เปรียบเหมือน
บุรุษเอามือทั้ง 2 จับนกคุ่มไว้แน่น นกคุ่มนั้นต้องถึงความตายในมือนั้นเอง
ฉันใด ดูก่อนอนุรุทธะ ฉันนั้นเหมือนกันแล ความเพียรที่ปรารภเกินไปแล
เกิดขึ้นแล้วแก่เรา ก็แลความเพียรที่ปรารภเกินไปเป็นเหตุ สมาธิของเราจึง
เคลื่อน เมื่อสมาธิเคลื่อนแล้ว แสงสว่างและการเห็นรูปจึงหายไปได้ เราจัก
ทำให้ไม่เกิดวิจิกิจฉา อมนสิการ ถีนมิทธะ ความหวาดเสียว ความตื่นเต้น
ความชั่วหยาบ และความเพียรที่ปรารภเกินไปขึ้นแก่เราได้อีก.
[459] ดูก่อนอนุรุทธะ เรานั้นผู้ไม่ประมาท ฯลฯ ดูก่อนอนุรุทธะ
เรานั้นได้มีความรู้ดังนี้ว่า ความเพียรที่ย่อหย่อนเกินไปแล เกิดขึ้นแล้วแก่
เรา ก็ความเพียรที่ย่อหย่อนเกินไปเป็นเหตุ สมาธิของเราจึงเคลื่อน เมื่อสมาธิ
เคลื่อนแล้ว แสงสว่างและการเห็นรูปจึงหายไปได้ ดูก่อนอนุรุทธะ เปรียบ
เหมือนบุรุษจับนกคุ่มหลวม ๆ นกคุ่มนั้นต้องบินไปจากมือเขาได้ ฉันใด
ดูก่อนอนุรุทธะ ฉันนั้นเหมือนกันแลความเพียรที่ต่อหย่อนเกินไปแล เกิดขึ้น
แล้วแก่เรา ก็ความเพียรที่ย่อหย่อนเกินไปเป็นเหตุ สมาธิของเราจึงเคลื่อน
เมื่อสมาธิเคลื่อนแล้ว แสงสว่างและการเห็นรูปจึงหายไปได้ เราจักทำให้ไม่

เกิดวิจิกิจฉา อมนสิการ ถีนมิทธะ ความหวาดเสียว ความตื่นเต้น ความ
ชั่วหยาบ ความเพียรที่ปรารภเกินไป และความเพียรที่ย่อหย่อนเกินไปขึ้น
แก่เราได้อีก.
[460] ดูก่อนอนุรุทธะ เรานั้นผู้ไม่ประมาท ฯลฯ ดูก่อนอนุรุทธะ
เรานั้นได้มีความรู้ ดังนี้ว่า ตัณหาที่คอยกระซิบแล เกิดขึ้นแล้วแก่เรา ก็
ตัณหาที่คอยกระซิบเป็นเหตุ สมาธิของเราจึงเคลื่อน เมื่อสมาธิเคลื่อนแล้ว
แสงสว่างและการเห็นรู้แจ้งหายไปได้ เราจักทำให้ไม่เกิดวิจิกิจฉา อมนสิการ
ถีนมิทธะ ความหวาดเสียว ความตื่นเต้น ความชั่วหยาบ ความเพียรที่ปรารภ
เกินไป ความเพียรที่ย่อหย่อนเกินไป และตัณหาที่คอยกระซิบขึ้นแก่เราได้อีก

ว่าด้วยการเกิดตัณหาคอยกระซิบ


[461] ดูก่อนอนุรุทธะ เรานั้นผู้ไม่ประมาท ฯลฯ ดูก่อนอนุรุทธะ
เรานั้นได้มีความรู้ดังนี้ว่า ความสำคัญสภาวะว่าต่างกันแล เกิดขึ้นแล้วแก่เรา
ก็ความสำคัญสภาวะว่าต่างกันเป็นเหตุ สมาธิของเราจึงเคลื่อน เมื่อสมาธิเคลื่อน
แล้ว แสงสว่างและการเห็นรูปจึงหายไปได้ เรานั้นจักทำให้ไม่เกิดวิจิกิจฉา
อมนสิการ ถีนมิทธะ ความหวาดเสียว ความตื่นเต้น ความชั่วหยาบ ความ
เพียรที่ปรารภเกินไป ความเพียรที่ย่อหย่อนเกินไป ตัณหาที่คอยกระซิบ และ
ความสำคัญสภาวะว่าต่างกันขึ้นแก่เราได้อีก.
[462] ดูก่อนอนุรุทธะ เรานั้นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มีตนส่ง
ไปแล้ว ย่อมรู้สึกแสงสว่างและการเห็นรูป แต่ไม่ช้าเท่าไร แสงสว่างและการ
เห็นรูปอันนั้นของเรา ย่อมหายไปได้ เราจึงมีความดำริดังนี้ว่า อะไรหนอแล
เป็นเหตุเป็นปัจจัยให้แสงสว่างและการเห็นรูปของเราหายไปได้ ดูก่อนอนุรุทธะ
เรานั้นได้มีความรู้ดังนี้ว่า ลักษณะที่เพ่งเล็งรูปเกินไปแล เกิดขึ้นแล้วแก่เรา