เมนู

พระองค์จึงพร้อมเพรียงกัน ยินดีต่อกัน ไม่วิวาทกัน เข้ากันได้ดังนมสดกับ
น้ำ มองดูซึ่งกันและกัน ด้วยนัยน์ตาที่น่ารักอยู่ได้.
[449] พ. ดีละ ๆ อนุรุทธะ...ก็พวกเธอเป็นผู้ไม่ประมาท มีความ
เพียร มีตนส่งไปแล้วบ้างหรือ.
อ. แน่นอน พระพุทธเจ้าข้า พวกข้าพระองค์ย่อมเป็นผู้ไม่ประมาท
มีความเพียร มีตนส่งไปแล้ว.
พ. ดูก่อนอนุรุทธะ...อย่างไรเล่า พวกเธอจึงเป็นผู้ไม่ประมาทมี
ความเพียร มีตนส่งไปแล้ว.
[450] อ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ในเรื่องนี้ พวกข้าพระองค์รูปใด
กลับจากบิณฑบาตแต่หมู่บ้านก่อน รูปนั้นย่อมแต่งตั้งอาสนะ ตั้งน้ำฉัน น้ำใช้
และกระโถนไว้ รูปใดกลับทีหลัง ถ้ามีภัตที่ฉันเหลือยังปรารถนาอยู่ ก็ฉันไป
ถ้าไม่ปรารถนา ก็เทเสียในที่ปราศจากหญ้า หรือทิ้งเสียในน้ำที่ปราศจากตัว
สัตว์ รูปนั้นจะเก็บอาสนะ เก็บน้ำฉันน้ำใช้และกระโถน กวาดโรงฉัน รูปใด
เห็นหม้อน้ำฉัน หรือหม้อน้ำในเวจกุฎีว่างเปล่า รูปนั้นจะตักใส่ไว้ ถ้ารูปนั้น
ไม่อาจ พวกข้าพระองค์จะกวักมือเรียกรูปที่สองมาแล้ว ช่วยกันตั้งหม้อน้ำฉัน
หรือหม้อน้ำใช้ไว้โดยช่วยกันหิ้วคนละมือ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พวกข้าพระ
องค์จะไม่ปริปาก เพราะเหตุนั้นเลย และพวกข้าพระองค์จะนั่งประชุมสนทนา
ธรรมกันคืนยังรุ่งทุก ๆ ห้าวัน ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อย่างนี้แล พวกข้า
พระองค์จึงเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มีตนส่งไปแล้ว.

ว่าด้วยการให้สาธุการ


[451] พ. ดีละ ๆ อนุรุทธะ... ก็พวกเธอผู้ไม่ประมาท มีความ
เพียร มีตนส่งไปอย่างนี้ ย่อมมีคุณวิเศษคือ ญาณทัสสนะอันประเสริฐ
สามารถกว่าธรรมของมนุษย์อันยิ่ง เป็นเครื่องอยู่สบายอัน ได้บรรลุแล้วหรือ.

อ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ในเรื่องนี้ พวกข้าพระองค์ผู้ไม่ประมาท
มีความเพียร มีตนส่งไปแล้ว ย่อมรู้สึกแสงสว่างและการเห็นรูป แต่ไม่ช้า
เท่าไร แสงสว่างและการเห็นรูปอันนั้นของพวกข้าพระองค์ ย่อมหายไปได้
พวกข้าพระองค์ยังไม่แทงตลอดนิมิตนั้น.
[452] พ. ดูก่อนอนุรุทธะ... พวกเธอต้องแทงตลอดนิมิตนั้น แล
แม้เราก็เคยมาแล้ว เมื่อก่อนตรัสรู ยังไม่รู้เองด้วยปัญญาอันยิ่ง ยังเป็นโพธิ-
สัตว์อยู่ ย่อมรู้สึกแสงสว่างและการเห็นรูปเหมือนกัน แต่ไม่ช้าเท่าไร แสงสว่าง
และการเห็นรูปอันนั้นของเรา ย่อมหายไปได้ เราจึงมีความดำริดังนี้ว่า อะไร
หนอแลเป็นเหตุ เป็นปัจจัยให้แสงสว่างและการเห็นรูปของเราหายไปได้ ดูก่อน
อนุรุทธะ. ...เรานั้น ได้มีความรู้ดังนี้ว่า วิจิกิจฉาแล เกิดขึ้นแล้วแก่เรา ก็
วิจิกิจฉาเป็นเหตุ สมาธิของเราจึงเคลื่อน เมื่อสมาธิเคลื่อนแล้ว แสงสว่างและ
การเห็นรูปจึงหายไปได้ เราจักทำให้ไม่เกิดวิจิกิจฉาขึ้นแก่เราได้อีก.
[453] ดูก่อนอนุรุทธะ...เรานั้นแลผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มี
ตนส่งไปแล้ว ย่อมรู้สึกแสงสว่างและการเห็นรูป แม้ไม่ช้าเท่าไร แสงสว่าง
และการเห็นรูปอันนั้นของเรา ย่อมหาย ไปได้ เราจึงมีความดำริดังนี้ว่า อะไร
หนอแล เป็นเหตุ เป็นปัจจัยให้แสงสว่างและการเห็นรูปของเราหายไปได้
ดูก่อนอนุรุทธะ เรานั้นได้มีความรู้ดังนี้ว่า อมนสิการแล เกิดขึ้นแล้วแก่เรา
ก็อมนสิการเป็นเหตุ สมาธิของเราจึงเคลื่อน เมื่อสมาธิเคลื่อนแล้ว แสงสว่าง
และการเห็นรูปจึงหายไปได้ เราจักทำให้ไม่เกิดวิจิกิจฉา และอมนสิการขึ้นแก่
เราได้อีก.
[454] ดูก่อนอนุรุทธะ เรานั้นผู้ไม่ประมาท ฯลฯ ดูก่อนอนุรุทธะ
เรานั้นได้มีความรู้ดังนี้ว่า ถีนมิทธะแล เกิดขึ้นแล้วแก่เรา ก็ถีนมิทธะเป็นเหตุ
สมาธิของเราจึงเคลื่อน เมื่อสมาธิเคลื่อนแล้ว แสงสว่างและการเห็นรูปจึง

หายไปได้ เราจักทำให้ไม่เกิดวิจิกิจฉา อมนสิการ และถีนมิทธะขึ้นแก่เราได้
อีก.
[455] ดูก่อนอนุรุทธะ เรานั้นผู้ไม่ประมาท ฯลฯ ดูก่อนอนุรุทธะ
เรานั้นได้มีความรู้ดังนี้ว่า ความหวาดเสียวแล เกิดขึ้นแล้วแก่เรา ก็ความหวาด
เสียวเป็นเหตุ สมาธิของเราจึงเคลื่อน เมื่อสมาธิเคลื่อนแล้ว แสงสว่างและ
การเห็นรูปจึงหายไปได้ ดูก่อนอนุรุทธะ เปรียบเหมือนบุรุษเดินทางไกล
เกิดมีคนปองร้ายเขาขึ้นที่สองข้างทาง เขาจึงเกิดความหวาดเสียว เพราะถูก
คนปองร้ายนั้นเป็นเหตุ ฉันใด ดูก่อนอนุรุทธะ ฉันนั้นเหมือนกันแล ความ
หวาดเสียวแลเกิดขึ้นแล้วแก่เรา ก็ความหวาดเสียวเป็นเหตุ สมาธิของเราจึง
เคลื่อน เมื่อสมาธิเคลื่อนแล้ว แสงสว่างและการเห็นรูปจึงหายไปได้ เราจัก
ทำให้ไม่เกิดวิจิกิจฉา อมนสิการ ถีนมีทธะและความหวาดเสียวขึ้นแก่เราได้อีก.

ว่าด้วยเกิดความตื่นเต้น


[456] ดูก่อนอนุรุทธะ เรานั้นผู้ไม่ประมาท ฯลฯ ดูก่อนอนุรุทธะ
เรานั้น ได้มีความรู้ดังนี้ว่า ความตื่นเต้นแล เกิดขึ้นแล้วแก่เรา ก็ความตื่น
เต้นเป็นเหตุ สมาธิของเราจึงเคลื่อน เมื่อสมาธิเคลื่อนแล้ว แสงสว่างและการ
เห็นรูปจึงหายไปได้ ดูก่อนอนุรุทธะเปรียบเหมือนบุรุษแสวงหาแหล่งขุมทรัพย์
แห่งหนึ่ง พบแหล่งขุมทรัพย์เข้า 5 แห่งในคราวเดียวกัน เขาจึงเกิดความตื่น
เต้น เพราะพบแหล่งชุมทรัพย์ 5 แห่งนั้นเป็นเหตุ ฉัน ใด ดูก่อนอนุรุทธะ
ฉันนั้นเหมือนกันแล ความตื่นเต้นแลเกิดขึ้นแล้วแก่เรา ก็ความตื่นเต้นเป็น
เหตุ สมาธิของเราจึงเคลื่อน เมื่อสมาธิเคลื่อนแล้ว แสงสว่างและการเห็นรูป
จึงหายไปได้ เราจักทำให้ไม่เกิดวิจิกิจฉา อมนสิการ ถีนมิทธะความหวาดเสียว
และความตื่นเต้นขึ้นแก่เราได้อีก.